บทความทั่วไป

อย่าเอาเรื่องขยะมาทำร้ายตัวเอง

System

อย่าเอาเรื่องขยะมาทำร้ายตัวเอง



 

ปีนี้เป็นปีที่ 3 ของการทำงานที่นี่ ในขณะนี้รู้สึกสบายใจกว่าเมื่อ 2  ปีแรกที่มาทำงานที่นี่ แต่ไม่เคยลืมเรื่องที่ผ่านมา
และวิถีทางที่ทำให้ตัวเองพ้นทุกข์ด้วยตนเองได้เลย เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อ 3 ปี
ที่แล้วขณะที่มาทำงานที่นี่เป็นปีแรก ขณะนั้นทำงานช้ามากเพราะงานที่ทำเป็นงานที่ต้องรับผิดชอบสูงและใช้ความละเอียดมาก

มีผู้ช่วยที่อาวุโสกว่า 2 คน คนหนึ่งชอบติและนินทาทุกคนที่ทำงาน
ขณะนั้นเราไม่รู้ว่าใครเป็นอย่างไร รู้อย่างเดียวว่าตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด แต่โดยบังเอิญเมื่อทำงานมาได้ 1  สัปดาห์

ขณะที่ทานข้าวอยู่ข้างๆห้องทำงาน
บังเอิญได้ยินพี่คนนี้กำลังนินทาว่าเราทำงานช้าและเอาไปเปรียบเทียกับคนอื่นที่ทำงานมานานกว่าเรา
ตอนนั้นรู้สึกเสียใจ และคิดว่าจะตั้งใจทำให้เร็วขึ้น มีวันหนึ่งครั้งนี้เป็นงานที่ยากเราตั้งใจทำเต็มที่
งานออกมาดีและมีพี่คนนี้ช่วยอยู่ข้างๆ ขณะที่ช่วยเค้าพูดดีเหมือนเข้าใจและให้กำลังใจ

แต่พอลับหลังเราที่ได้ยินโดยบังเอิญเพราะเค้าเข้าใจว่าเราไม่อยู่แต่เรากลับมาเอาของพอดี
เลยได้ยินว่าเค้าว่าเราทำงานนนั้นแบบดันทุรังทำไม่ได้ยังอยากทำ และทำให้เค้าปวดเมื่อยมาก(พี่แกอาวุโสแล้ว)
ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน พอฟังแล้วรู้สึกเสียใจมาก ใจสั่น มือสั่น อยากจะออกไปต่อกรกับพี่เค้าเลย
แต่ขณะนั้นคิดขึ้นมาได้ว่าเวลาโกรธหรือโมโหอย่าพูดอะไรทั้งสิ้นให้เดินหนีไปซะ
ไปตั้งสติก่อน กำลังจะเดินไปแล้ว แต่คิดว่าตัวเองเป็นคนที่เถียงและตอบโต้ไม่เป็นจึงหยุดและเดินหนีไป
แต่ก็กลับมานั่งร้องให้อยู่ที่ห้องพักคนเดียว

วันนั้นผอ.เรียกประชุมในขณะที่จิตใจกำลังเศร้าอย่างแรง ไม่อยากเข้าประชุมเลย
แต่ก็ต้องไปเพราะเป็นคำสั่ง แต่ก็รู้สึกดีถ้าหากไม่ไปเข้าประชุมวันนั้นก็คงจะยังเศร้าและทำร้ายตัวเองไปอีกนานเช่นกัน
เพราะในวันนั้นก่อนการประชุมผอ.เอากระดาษวางให้ทุกคนคนละ 1 แผ่น

หัวข้อเขียนว่ามงคลจากในหลวง มีทั้งหมด 29 ข้อ อ่านมาเรื่อยๆ
ก็มาโดนตรงข้อที่เท่าไหร่จำไม่ได้แต่มีใจความที่จำแม่นมากว่า

- ใครจะวิจารณ์เราอย่างไร ไม่ต้องเสียเวลาไปตอบโต้
- ฟังให้ดีโอกาสทองจะมาแบบแว่วๆเท่านั้น
- ประเมินตนเองด้วยมาตรฐานของตนไม่ใช่ของคนอื่น 
- มีมารยาทและอดทนต่อผู้ที่สูงวัยกว่าเสมอ


ในวันนั้นอ่านแล้วโดนมากจำได้แม่น และรู้สึกสบายใจขึ้นมาก ดีใจที่วันนั้นไม่ทำอะไรที่มันวู่วาม
ขณะเดียวกันก็ได้อ่านคำสอนของพระ ว .วชิรเมธีซึ่งโดนอีกเช่นกันตรงที่ว่า
เวลาเจอคนตำหนิ ให้บอกตัวเองไว้ว่านี่คือขุมทรัพย์มหาสมบัติ และหากเจอคำนินทาให้ระลึกเสมอว่า
นี่แสดงว่าเรายังเป็นคนสำคัญอยู่ เมื่อนำมาปฏิบัติทำให้รู้สึกว่าจริงมากๆ เพราะการที่เค้านินทา ตำหนิ

แสดงว่าเรายังมีข้อบกพร่องอยู่ แทนที่เราจะเอามาบั่นทอนจิตใจตนเอง หากมองในมุมที่กลับกันละ
จะพบว่า มันเป็นโอกาสที่จะทำให้งานเราสมบูรณ์ยิ่งขึ้นได้ต่างหาก

และหากอันไหนที่เราว่าเราทำดีที่สุดในมาตรฐานของเราแล้วก็ไม่ต้องไปสนใจ
ทำในส่วนที่ดีแล้วให้ดียิ่งๆขึ้นและแก้ส่วนที่ยังไม่ดีให้ดียิ่งๆไปไม่ดีกว่าเหรอ
จากวันนั้นทำให้ได้แนวคิดใหม่ในการทำงานทำใสบายใจมากขึ้น
ทำงานได้เร็วขึ้น และไม่กังวลและคิดมากกับคำนินทาอีก
หากแต่ถ้าได้ยินจะเอามานั่งทบทวนว่าจริงหรือไม่ถ้าจริงก็นำมาแก้ไข
ปัจจุบันนี้พี่คนนี้ก็มีเรื่องนินทาคนอื่นแทนเราแล้ว

เรื่องเรามีน้อยลงหรืออาจจะเป็นเพราะไม่ใส่ใจมากเหมือนเมื่อก่อนหรือเพราะทำใจได้ก็ไม่ทราบ
รู้แต่ว่าขณะนี้สอนตัวเองที่จะไม่ให้เอาเรื่องขยะมาทำร้ายตัวเองอีก เท่านั้นเองจ้า

กล่องความคิดเห็น

การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่