{ ก๋าราณีตอบคำถามน้องเสือย้อมแมว }
{ ก๋าราณีตอบคำถามน้องเสือย้อมแมว }
2 สัปดาห์ กลับบ้านที่ลำปาง
อากาศหมอกหนามาก แม่ผมเป็นภูมิแพ้อากาศ
ไปเข้าโรงบาลได้ 5 วัน หมอให้ออกมาอยู่ข้างนอก
ตอนนี้ผมมาเรียน ที่ กทม. เป็นห่วงแม่
ในระยะยาว ผมจะแก้ปัญหานี้ยังไงครับ
ตอนนี้แม่อายุประมาณ 47- 48 แล้ว
อยากพาแม่มาอยู่ที่นี่ครับ
แต่คาดว่ามันต้องใช้เงินมากมายเลย
ถ้าพี่ก๋าเป็นผม
อย่างแรกเลยพี่ก๋าจะทำอะไรก่อนครับ
เพื่อเตรียมตัวหาเงิน ๆ ๆ ๆ
แต่ดูไปรอบ ๆ ตอนนี้เงินหายาก
เด็กจบใหม่ถ้าไม่เก่ง ทำโปรก็ได้ 12000 นิด ๆ
รู้สึกว่าเงินหายากมากเลย
แต่อาจารย์ที่สอนบอกไว้ว่า
“เงินมีอยู่ทุกที่ รอคนมีปัญญาไปเอา”
ทุกสิ่งมันมาจากธรรมชาติ ผมดูประวัติการต่อสู้โบราณมา
เมื่อก่อนอัศวินจะใส่ชุดเกราะเหล็ก ถือดาบหนา
ทุบตายคาเกราะเลย แล้วพวกตัวเล็กมันสู้ไม่ได้
มันเลยไม่ใส่เกราะ ใช้ดาบแบบเดียวกับกีฬาฟันดาบปัจจุบัน
แล้วแทงช่องโหว่เอา
ขอถามพี่ก๋าเลยนะครับว่า
มีวิธีการหาเงินที่ไม่ต้องมีเงื่อนไขไหมครับ
เช่น วุฒิ ประสบการณ์ หรือสถานที่
ขอบคุณครับ
คำถามโดย : เสือย้อมแมว
วันที่ : 29 กุมภาพันธ์ 2555
เวลา : 23:34:00 น.
วันก่อนพี่ก๋ามีภารกิจมากมายในวันเดียว
ช่วงเช้าถึงเที่ยงอยู่ที่โรงเรียนลูกชาย
ไปร่วมกิจกรรมวันปิดเทอมและเด็กๆมีการแสดง
มีการเรียนรู้ร่วมกันกับผู้ปกครองและครู
เด็กๆสนุกสนานกับกิจกรรมทั้งหมด
ส่วนผู้ปกครองก็มีความสุข
เพราะได้เห็นบุตรหลานของตนมีความสุขกับการเรียนรู้และการแสดง
ในแวบหนึ่ง...
พี่ก๋ามองเห็นเด็กหลายคนมองหาพ่อแม่ของตนเอง
ที่ไม่ได้มาร่วมงานในวันนั้น
..............................
กลับมาที่บ้าน
พี่ก๋าออกไปเยี่ยมคนป่วยคนหนึ่งซึ่งรู้จักกันมานาน
เดินเข้าไปเยี่ยมในห้อง ICU
เขาอายุ 66 นอนนิ่งไม่รู้สึกตัวมาหลายวัน
เนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก ล้มหัวฟาดพื้น
หลังผ่าตัดสมอง เขาก็นอนไม่รับรู้อะไร
แต่พยาบาลบอกว่าเขาจำภรรยาได้เพียงคนเดียว
โดยจะลืมตาแล้วก็ยิ้มเวลาภรรยาเดินมาเขย่าตัว
จากนั้นก็หลับตานอนทั้งวัน....
ภรรยาคงเครียดมากเพราะแค่ข่าวว่าเขาป่วยสะพัดออกไป
เจ้าหนี้หลายรายก็เดินทางมาทวงหนี้ถึงโรงพยาบาล
ในแวบหนึ่ง...
พี่ก๋ามองเห็นความเหน็ดเหนื่อยของคนที่ยังอยู่
และต้องดูแลคนป่วยซึ่งไม่รู้จริงๆว่าจะมีโอกาสกลับมาหายดีเป็นปกติหรือไม่
...................................
จากโรงพยาบาลขับรถไปที่วัด
เข้าไปไหว้ศพของคนรู้จัก
ผู้ตายอายุ 60 ปี
เป็นโรคประจำตัวคือมีความดันนิดหน่อย
แต่ชอบกินเหล้าสูบบุหรี่
ภรรยาของเขาเล่าว่า
บ่ายวันนั้นเขาบ่นปวดหัวแล้วเดินเข้าไปนอน
ภรรยาเข้าไปดูอาการสองครั้ง
เขาลืมตาขึ้นมาบอกได้ว่ายังปวดหัวอยู่
แต่การปลุกครั้งที่สามเขาแน่นิ่งไปจนผิดสังเกต
ภรรยาเรียกลูกกับคนข้างบ้านให้ช่วยพาไปส่งโรงพยาบาล
หมอออกมากล่าวคำว่า
“คุณมาสายเกินไป”
พี่ก๋านั่งคุยกับภรรยาของเขา
แววตาเศร้าโศกและเหนื่อยล้าปรากฏให้เห็นชัด
ลูกสองคนที่ยังเล็ก และชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไป
ในแวบหนึ่ง....
พี่ก๋ามองเห็นแววตาของคนที่ยังอยู่
เหน็ดเหนื่อย ท้อแท้และไม่เข้าใจในโชคชะตาของตน
................................
ช่วงค่ำเดินทางไปยังโรงแรมสี่ดาว
เพื่อร่วมงานเลี้ยงประจำปีของบริษัททัวร์
พนักงานบริษัทแต่งตัวสวยงาม
อาหารอร่อย ดนตรีไพเราะ บรรยากาศอันชื่นมื่น
เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม เสียงพูดคุยดังไปทั่วงาน
ทุกคนมีความสุข
พีก๋านั่งคิดอะไรเงียบๆ
ในแวบหนึ่ง....
พี่ก๋าอดสงสัยไม่ได้ว่า
แววตาของคนที่อยู่ในงานนี้
ทุกคนมีความสุขจริงๆล่ะหรือ ?
.........................................
“เงิน” เป็นสิ่งสำคัญ
แต่สิ่งที่สำคัญกว่าเงิน คือ “เวลา”
เราอาจคิดว่าการมีเงินเยอะๆมากๆเร็วๆเป็นสิ่งที่ดี
แต่พี่ก๋ายังไม่เคยเห็นงานอะไรที่ได้เงินเร็วและสบายเลย
ทุกอย่างมีราคาที่เราต้องจ่ายเสมอ
และจงถามตัวเองให้แน่ใจว่ามันคุ้มแล้วหรือที่เราจะแลก ?
ถ้าเงินเดือน 12000 นั้นทำให้เราลำบากนิดหน่อยในการใช้ชีวิต
แต่มีเวลามากพอที่จะอยู่กับคนที่เรารัก --- จงทำ
อยากได้เงินเดือนแสนสอง เราคงต้องทำงานชนิดลืมเป็นลืมตาย
ทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงตีสองทุกวันแน่ๆ
(อย่าไปเชื่อโฆษณาของพวกขายตรงเลยนะครับ
ที่บอกว่าให้เงินทำงานแทนเรา ทำงานเบา มีเวลาเหลือเฝือ
แล้วเงินก็งอกเงย งอกงาม ...มันไม่มีจริงหรอกครับ)
.................................
ลองถามคุณแม่น้องดูดีดีนะครับ
ว่าท่านอยากไปอยู่กรุงเทพจริงๆหรือเปล่า
ลำปางมีควัน แต่กรุงเทพก็มีควัน
ไหนจะเพื่อนบ้านที่หายไป ไหนจะวิถีชีวิตที่คุ้นชินที่หายไป
คิดเผื่อท่านด้วยนะครับ
ถ้าจะพาท่านไป แล้วปล่อยให้อยู่แต่ในบ้าน
เพื่อรอลูกชายกลับมาบ้านในตอนดึก แล้วเช้ามาก็ต้องรีบตื่นไปทำงาน
นั่นเป็นวิถีชีวิตที่ท่านทนได้หรือไม่
.............................
ลองตั้งโจทย์กับตัวเองดูอีกทีนะครับ
ว่าเราต้องการเงินไปทำไม
เพราะในหลายสิ่งหลายอย่าง
เงินไม่ใช่คำตอบ
ความสุขที่เราคิดว่าเราอยากได้อยากมี
มันต้องใช้เงินซื้อ
หรือว่าเป็นสิ่งที่เราทำเองได้โดยไม่ต้องใช้เงิน
เงินให้ไอโฟนเราได้ แต่ไอโฟนพาเราไปกอดแม่ไม่ได้
เงินให้รถคันใหญ่กับเราได้ แต่ให้ความปลอดภัยบนท้องถนนไม่ได้
เงินให้บ้านหลังใหญ่กับเราได้ แต่สร้างความอบอุ่นในบ้านไม่ได้
ฯลฯ
ความสุขของคนบางคน คือ อยากรวย
อยากซื้อสิ่งต่างๆเข้าบ้าน อยากประสบความสำเร็จ
อยากมีคนยอมรับนับถือ อยากมีชื่อเสียง ฯลฯ
แต่แม่คนหนึ่งอาจบอกว่า
ความสุขคือการได้เห็นลูกอยู่ใกล้ๆ แข็งแรงและสบายดี
…………………………….
ความร่ำรวยมีเงื่อนไข
และมีราคาที่เราต้องจ่าย....
ถ้าเราตั้งโจทย์ด้วยเงินเดือนสูงๆ
พี่ก๋าไม่แน่ใจว่าเราจะมีความสุขในการทำงานหรือไม่
แต่ถ้าเราเลือกที่จะมีความสุขกับงานที่ทำ
แม้เงินเดือนน้อยกว่า
แต่พี่ก๋าว่ามันจะทำให้เรามีความสุขในระยะยาว
และถ้าเรารักษาความสุขในการทำงานแบบนี้ได้
ไม่ว่าเราจะทำงานอะไร ทำที่ไหน เงินเดือนเท่าไหร่
เราจะตื่นมาทุกเช้าและมีความสุขกับการทำงาน
ที่สุดแล้ว
อะไรที่เราทำมันด้วยความรัก ความทุ่มเท
มันจะส่งผลตอบกลับมาเป็นเงิน เป็นความสุขใจ
คำถามคือ เราชัดเจนกับตัวเองแล้วหรือยัง
ว่าเรามีความสามารถอะไร เรามีจุดเด่นที่สุดคืออะไร
แล้วเราเหมาะสมกับงานแบบไหน ฯลฯ
ถ้ายังตอบไม่ได้ ก็ต้องไปหาคำตอบให้ตัวเอง
ก่อนที่จะคิดถึงเรื่องเงินหรือการประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตนเองทำ
........................................
คนเราเกิดแล้วก็ตาย
แต่ความหมายชีวิตไม่ได้อยู่ตรงการเกิดตาย
ความหมายชีวิตอยู่ระหว่างนั้น
อยู่ในทุกก้าวของการเติบโต
ออกไปล้มเหลวและเรียนรู้จากมัน
พี่ก๋าไม่ค่อยเชื่อเรื่องของการประสบความสำเร็จง่ายๆ
รวยเร็วๆ หรือ ทำอย่างไรให้ชีวิตไม่มีปัญหา
อยู่อย่างไรให้ไร้ทุกข์ ฯลฯ
ชีวิตจริงมันคือการกล้าที่จะเผชิญกับปัญหา
สนุกกับความลำบากที่ผ่านเข้ามา
แล้วก็มีความสุขกับสิ่งง่ายๆใกล้ตัว
พี่ก๋าคิดมาได้ระยะหนึ่งแล้ว
ว่าเงินช่วยให้ชีวิตสะดวกสบาย
แต่เงินไม่ได้เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง
มีเงินน้อยลงได้ ถ้าจะทำให้ครอบครัวอบอุ่นและมีความสุข
มีเงินน้อยลงได้ ถ้าทำให้เราได้ใช้เวลาอยู่กับคนที่เรารัก
เพราะทั้งความอบอุ่นและความรัก
เมื่อถึงเวลาที่เราต้องสูญเสียไป
ต่อให้เอาเงินมากองทั้งโลก
เราก็แลกสิ่งนั้นกลับมาไม่ได้อยู่ดี
ขอให้มีความสุขกับการตัดสินใจของตัวเองนะครับ
กล่องความคิดเห็น
การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่