อย่าให้อดีตเป็นตัวกำหนดเอกลักษณ์ของคุณ
เขียนโดย : กะว่าก๋า
เพื่อนบางคนเคยปรับทุกข์กับผม
เธอบอกว่าที่ชีวิตรักของเธอล้มเหลวอยู่ตลอดเวลา
นั่นเป็นเพราะพ่อแม่ของเธอเองก็เลิกรากัน.....
มันทำให้ผมนึกถึงตรรกะแบบ
“เมื่อผีเสื้อขยับปีก พายุก็ก่อตัวเคลื่อนไหว”
คนเรามักหาเหตุเพื่อสร้างความชอบธรรมและทำให้ตัวเองรู้สึกผิดน้อยลง
จำไม่ได้ทั้งหมดว่าพูดอะไรออกไปในวันนั้น
แต่มีประโยคหนึ่งที่ผมคิดว่าเธอคงจำได้
“ใครทำสิ่งใดไว้ ย่อมได้รับผลแห่งการกระทำนั้น”
………………………………………….
ในเพื่อนร่วมรุ่น บางคนเรียนจบได้งานทำ
มีตำแหน่งใหญ่โต ร่ำรวยมีเงินทอง ครอบครัวมีความสุข
บางคนเรียนไม่จบ และมีปัญหากับการประคับประคองชีวิตตลอดเวลา
หลังจากไม่เจอกันนานมาก
มีหนึ่งคนที่ไปเป็นแคดดี้ในสนามกอล์ฟ ลูกสอง ภรรยาหนึ่ง
กับชีวิตที่ยากจนข้นแค้น เขาได้แต่ด่าทอโชคชะตา
ตัดพ้อเพื่อนฝูงที่ไม่ค่อยให้ความช่วยเหลือ
หลายครั้งที่เจอกันตามงานแต่งงานเพื่อนร่วมรุ่น
เขามาพบเพื่อนด้วยสภาพเมามาย เสื้อผ้ายับยู่ยี่....
เมื่อนั่งลงกลางโต๊ะ เขาพร่ำพูดถึงแต่ชีวิตอันย่ำแย่ของตัวเอง
เรียกบริกรเพื่อขอเหล้ามาดื่มตลอดเวลา
เวลาผ่านไปไม่นานเขาก็เริ่มเมามายมากขึ้น
และทำตัวเลอะเทอะรุงรังในงานนั้น
.............................................
ทุกคนมีอดีตอันเจ็บปวดทั้งนั้น
เมื่อการใช้ชีวิตในโลกนี้ มันอุดมไปด้วยความทุกข์ทั้งสิ้น
ทุกข์ของคนที่ปวดฟัน ทุกข์ของคนที่ไม่มีข้าวกิน
ทุกข์ของคนที่บ้านถูกน้ำท่วม
ทุกข์ของคนที่กำลังครอบครัวแตกสลาย
ทุกข์ ของคนที่ผิดหวังกับความรัก
ทุกข์ของคนที่การงานล้มเหลว
ทุกข์ของคนที่เจ็บป่วยใกล้วางวาย
ทุกข์ของภาวะหนี้สินที่ล้นเกิน
ทุกข์ของการลงจากตำแหน่งสูงส่งจอมปลอม
ทุกข์จากการไม่เป็นที่รักของคนรอบข้าง
หรือ แม้แต่ความทุกข์ที่ไม่อาจหาใครเพื่อรักจริงได้แม้เพียงสักคน
เราต่างเกาะกุมความทุกข์ในทุกๆรูปแบบ
มีใครไม่ทุกข์ นับตั้งแต่พระราชายันยาจก
ตั้งแต่คนรวยล้นฟ้าจนถึงคนต่ำต้อยติดดิน
อดีต...ก็คือ อดีต
อดีตที่เต็มไปด้วยความทุกข์
ทั้งทุกข์ที่ทนได้ และที่ทนไม่ได้
แต่ถ้าเราแข็งแกร่ง หยัดยืน
วันหนึ่ง...มันก็ผ่านไป
มีประโยชน์อะไรกับการเฝ้าด่าทอสิ่งที่ผ่านไปแล้ว
เพราะคุณเปลี่ยนแปลงอะไรมันไม่ได้
สิ่งที่สูญเสียไปแล้วคุณไม่มีทางเรียกร้องมันกลับคืน
แต่คุณสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้
ด้วยการลงมือทำ ... ไม่ใช่การร้องขอ
………………………………………..
เท่าที่รู้ ผมรู้จักอีกหลายคนที่เกิดในครอบครัวแตกร้าว
แต่เมื่อเขามีครอบครัว กลับทุ่มเทความรักลงไปอย่างพอดี
ไม่มากล้นและไม่น้อยเกินไป มีลูกน้อยน่ารัก ภรรยาที่แสนดี
มีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข....โดยไม่ต้องโทษคนอื่น
เพียงแต่หันมามองตัวเองอย่างถ่องแท้
ใช้ความผิดพลาดของพ่อแม่เป็นเครื่องเตือนใจ
ว่าจะไม่เดินย่ำซ้ำรอยแห่งความผิดพลาดนั้น
เท่าที่เห็น เพื่อนบางคนเรียนไม่สูง
แต่พอจบออกมาก็ตั้งใจทำมาหากินอย่างขยันขันแข็ง
คุณทำงานห้าวัน เขาทำเจ็ดวัน
ขณะที่คุณนั่งเฮฮากลางวงเหล้าทุกคืน
เขานั่งอยู่บนโต๊ะทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เขานั่งรอให้โชคช่วยหรือ ?
เขารอให้เงินหล่นมาประเคนตรงหน้าหรือ ?
เขาวิ่ง...ขณะที่คุณยังหมอบคลานกับชีวิต
และเอาแต่ก่นด่าโชคชะตาฟ้าดิน
.................................................
“อย่าให้อดีตเป็นตัวกำหนดเอกลักษณ์ของคุณ”
สิ่งที่ผ่านไปแล้ว มันคืออดีต ..
ที่เราไม่อาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้อีก
อยู่กับวันนี้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด...
ทุกสิ่งมันเกิดขึ้นด้วย “ตัวเรา” ทั้งหมดทั้งสิ้น
เมื่อทำสิ่งใดลงไป ก็ต้องกล้าพอที่จะรับผลของการกระทำนั้น
ไม่ใช่มัวมาร่ำร้องคร่ำครวญหาความยุติธรรมบ้าบอ
และสุดท้ายก็เป็นได้แค่เพียง “ตัวตลกที่น่าสมเพช” เท่านั้นเอง.
กล่องความคิดเห็น
การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่