ความงามและความดี
ผมจำได้ไม่มีวันลืม..
บ่ายวันนั้นพระสงฆ์รูปหนึ่งมาเทศน์ที่โรงเรียน
แม้จะอยู่เพียงชั้นประถมหก แต่ประโยคหนึ่งที่ท่านสอน
ยังคงติดตามตัวผมมาจนถึงทุกวันนี้
คนจะงาม งามที่ใจ ใช่ใบหน้า
คนจะสวย สวยจรรยา ใช่ตาหวาน
คนจะแก่ แก่ความรู้ ใช่อยู่นาน
คนจะรวย รวยสินทาน ใช่บ้านโต
..............................................
กลอนบทนี้มีอิทธิพลกับวิธีคิดของผมสืบเนื่องยาวนาน
ยิ่งผมทำงานพบผ่านผู้คนมากมายเท่าไหร่
ยิ่งเห็นความถ่องแท้จากประโยคที่ว่า
“คนจะงาม งามที่ใจ ใช่ใบหน้า” มากเท่านั้น…
หลายคนยิ้ม ในขณะที่มือถือมีดจ้วงแทงด้านหลังของเราไม่ยั้ง
หลายคนหน้าตาขี้เหร่ แต่จิตใจงามจนก้มกราบได้ไม่เคอะเขิน
……………………………………………
“คนจะแก่ แก่ความรู้ ใช่อยู่นาน”
ประโยคนี้ทำให้ผมเคารพคนที่ความคิด
ไม่ว่าเขาจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
หากมีคำสอน คำแนะนำที่ดี
เราต้องพร้อมยอมรับ ยอมฟังความคิดที่ดีนั้น
แล้วนำมาปรับใช้กับตัวเอง.....
แน่นอน...บางคนอยู่นาน แต่ความคิดอ่านก็ไม่ได้เติบโตตามอายุ
คล้ายว่าเติบโตแต่เลขอายุ
ก็ไม่ได้แข็งขืนดึงดันอะไร ผมยกมือไหว้เขาได้
ในฐานะที่เขาเกิดก่อนและอยู่บนโลกนี้มานานกว่าเรา
แต่จะยอมรับนับถือหรือเคารพกันหรือไม่ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
.......................................
“คนจะรวย รวยสินทาน ใช่บ้านโต”
มีคนรวยรอบข้างผมมากมาย
ที่ผมรู้สึกว่ายิ่งเขามีเงินเพิ่มขึ้นเท่าไหร่
เขายิ่งมีความสุขในชีวิตน้อยลง
จำนวนเงินในบัญชีของคุณ ไม่ได้บ่งบอกว่าคุณเป็นคนอย่างไร
ในความเขี้ยวคมเชิงธุรกิจ คุณอาจเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ
แต่ถ้ามันเป็นความร่ำรวยที่ได้มาจากการฉกฉวยช่วงชิง
เอารัดเอาเปรียบ ครอบงำและใช้อำนาจที่ตัวเองมีอยู่
บีบให้คนอื่นต้องยอม ต้องเสียผลประโยชน์ให้กับคุณ
คุณก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลย
นอกจากเพิ่ม ความโลภและความเห็นแก่ตัว เข้าสู่หัวใจของตัวเอง
คุณจะบริจาคห้าล้าน เพื่อแลกกับการเปล่งเสียงร้องเพี้ยนๆรูหู
ทางโทรทัศน์ย่อมไม่มีใครว่า อย่างน้อยคุณก็ให้ทาน..
ไม่ว่าจะเพื่อหวังผลอะไรก็ตาม เช่น ได้ทำบุญ ได้ออกทีวี
ได้ชื่อเสียง ได้เกียรติประวัติ
ผมหวังแค่คงมีสักครั้ง.....
...คงมีสักแวบหนึ่งในชีวิต ที่คุณจะรับรู้ได้บ้างว่า
ความสุขที่แท้จริงของการให้นั้น
คือ การให้โดยไม่หวังผลตอบแทน.
กล่องความคิดเห็น
การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่