รัก...ทั้งหมดที่มีอยู่
เมษายน 2539
มีข่าวเล็กๆที่คนไม่สนใจ
แต่ผมเก็บรายละเอียดไว้ทั้งหมด
ข่าวนั้นคือ แม่แมวตัวหนึ่งบุกเข้าไปในตึกที่ไฟโหมลุกกระหน่ำอย่างรุนแรง
มันบุกเข้าไปอย่างกล้าหาญเพื่อเข้าไปคาบลูกน้อยของมัน
ทีละตัว ทีละตัว
ทุกครั้งที่คาบลูกออกมาวางด้านนอกของตึก
มันต้องแลกด้วยขนและผิวหนังที่ถูกไฟไหม้เกรียม
เข้าไปในตึกทีละครั้ง คาบลูกแมวออกมาได้ครั้งละตัว
ห้าครั้ง......
มันมีลูกห้าตัว
ลูกทุกตัวปลอดภัย
แต่แม่แมวบาดเจ็บสาหัสจากแผลไฟลวก
ไม่มีคนใจหินคนไหนที่เห็นภาพนี้แล้วไม่สะเทือนใจ
สัตวแพทย์คนหนึ่งที่อยู่ในบริเวณนั้นรีบเข้าไปช่วยเหลือมันทันที
แต่ภาพที่พบคือ แม่แมวคอยเลียหูเลียตาลูกแมว
ปลอบประโลมไม่ให้ตื่นตระหนก
ทั้งๆที่ตัวมันเองบาดเจ็บเจียนตาย
.........................................
หลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรี
ผมกลับมาบ้านเพื่อบอกกับพ่อและแม่ว่า
จะไม่เข้ารับปริญญาบัตร
ด้วยเหตุผลที่คนในบ้านทราบดีมาโดยตลอด
ว่าผมไม่มีความสุขในระหว่างที่ไปศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ผมเกลียดระบบการศึกษาที่นี่ ไม่เคารพ ไม่ศรัทธา
ไม่ภาคภูมิใจที่ต้องรับกระดาษหนึ่งใบ
เพื่อมารับรองความเป็น “บัณฑิต” ของตัวเอง
เป็นปริญญาตรีที่กลวงโบ๋ว่างเปล่ามากในความรู้สึก
และเมื่อไม่ศรัทธา ผมจะไปรับทำไมให้เปลืองเงิน
...ตั้งหน้าตั้งตาทำงานดีกว่า
ในตอนแรกพ่อไม่ว่าอะไรพูดแต่เพียงว่า
“โตแล้ว...ตัดสินใจเอาเองก็แล้วกัน”
ผ่านไปสองสามเดือน....ซึ่งผมลืมเรื่องรับปริญญาไปแล้ว
ตอนเย็นขณะกินข้าวด้วยกัน
พ่อพูดขึ้นมาว่า
“ไปรับปริญญาให้แม่มึงหน่อยก็แล้วกัน”
ผมเงียบ.....ทุกคนเงียบรอคำตอบจากปากของผม
“อืม” ผมพยักหน้าแทนคำตอบรับ
..........................................
นี่จึงเป็นการทำสิ่งที่ฝืนความรู้สึกของตนเองมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต
ผมรู้ว่ามันคือสิ่งที่ผมไม่เต็มใจทำเป็นอย่างยิ่ง
ทุกคนในบ้านก็รู้
แต่ผมทำ....
ทำเพราะคิดว่าเป็นหน้าที่ของลูก
ทำเพราะคิดว่านี่คือความภาคภูมิใจที่พ่อแม่คนหนึ่ง
จะภาคภูมิใจในความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของลูก
ผมถ่ายรูปกับแม่และน้องสาวในตอนเช้า
จนถึงเวลาที่ต้องเข้าไปนั่งรอในห้องประชุม
ผมบอกแม่และน้องว่า กลับบ้านก่อนเถอะ
ไม่ต้องรอจนเย็นเพื่อกลับบ้านด้วยกัน
ผมจะกลับเอง....
รับปริญญาบัตรเสร็จ ผมเดินดุ่มๆออกมาจากห้องประชุม
เพื่อนเรียกให้ถ่ายรูปหมู่ด้วยกัน
มันเป็นภาพเดียวที่มีรูปผมปรากฏอยู่
ถ่ายเสร็จผมบอกลาเพื่อน...
เดินออกมาเรียกรถไปหมอชิต ถอดเสื้อครุยในรถแท๊กซี่
นั่งเงียบมาตลอดทาง ก่อนนั่งรถทัวร์กลับบ้านในค่ำวันนั้นทันที
.........................................
ผมบอกคุณไม่ได้ว่าแววตาของ “แม่” ภาคภูมิใจ ดีใจขนาดไหน
ในวันที่ไปถ่ายรูปกับผมในงานรับปริญญา
แต่ผมคิดว่ามันเป็นแววตาเดียวกันกับ “แม่แมว” ตัวนั้น…
แววตาที่ “รักลูก” ทั้งหมดของหัวใจ.
กล่องความคิดเห็น
อ้วน โพสเมื่อ 6 ส.ค. 2012 21:24:40
รู้สึกดีมาก อยากให้อ่านกันเยอะๆการแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่