บทความทั่วไป

เงาแห่งรัก

กะว่าก๋า








เขียนโดย : กะว่าก๋า




เธอผิดไหม ที่เกิดมา ด้วยความรัก
รักแรกเริ่ม หอมหวาน และสดใส
เธอเกิดมา พร้อมความหวัง อันก้าวไกล
หวังเติบใหญ่ ในความรู้สึก ซึ่งสวยงาม



เธอผิดไหม เมื่อสองคน เริ่มร้าวฉาน
รักร้าวราน ซ่านกระเซ็น เป็นสองสาย
อนาคต พังพาบ แตกกระจาย
หวังสลาย กลายหมด จากคิดมา



หมดที่พึ่ง ไร้หลัก ในยึดเหนี่ยว
ดูรอบกาย ไม่ใสสด ดังคิดหวัง
เหลือแต่ทาง ร้างไร้ และเลือนราง
เลือกหนทาง สิ่งเสพติด เข้าทดแทน



หวังให้มัน เข้ามาแทน สิ่งสูญไป
คิดในใจ เพียงแก้เหงา ของใจโหย
แต่กลับกลาย ฆ่าจิตกาย จนร่วงโรย
ถูกขโมย วิญญาณ จนหลุดลอย



เธอผิดไหม ที่ต้องตาย ด้วยความรัก
เพื่อประจักษ์ ซึ่งความจริง สิ่งโหดร้าย
รักของคน สองคน ที่กลับกลาย
ต้องทำให้ ตัวเธอ จบชีวี



ปัญหานี้ มีใคร ต้องรับผิด
ใครต้องคิด ก่อนกำเนิด เลือดเชื้อไข
ใครต้องรับ ความผิด ติดตัวไป
ใครชดใช้ เงาแห่งรัก ในความตาย







.....................................................

 




เราไม่สนิทกันมากนัก

เพราะเพื่อนคนนี้เรียนด้วยกันเพียงเทอมเดียว
ขึ้นเทอมสองเขาหายไปโดยไม่มีใครทราบสาเหตุ
รู้แต่ว่าตอนที่เรียนด้วยกัน เขาเป็นคนเงียบๆ ไม่ร่าเริง
ซึมเหม่อตลอดทั้งวัน
ยิ้มที่เขายิ้ม มันแล้งไร้ซึ่งชีวิตชีวา
ก่อนเข้าเรียนเขามักไปนั่งดื่มเหล้าเงียบๆคนเดียว
แล้วก็เข้าเรียนภาคบ่ายด้วยสายตาแดงกล่ำ
ผมไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขามากนัก
ไม่ค่อยได้พูดคุยกันเท่าไหร่
เจอก็ยิ้มให้กัน
ปลายเทอมหนึ่ง เขาขาดเรียนบ่อยครั้ง
บางครั้งเข้ามานั่งเรียน

เพียงครู่เดียวก็หายแวบออกไปก่อนที่ครูและเพื่อนจะรู้ตัวด้วยซ้ำ

 


...........................................

 

 


นิสัยโดยส่วนตัวเขาไม่เคยสร้างปัญหาให้เพื่อนคนไหนเลย
อยู่ในกลุ่มด้วยความเงียบ นั่งยิ้ม
ตาเยิ้มหวานตลอดเวลา
ผมทราบในภายหลังว่าเขาเริ่มทดลอง “ของ” แรงขึ้นเรื่อยๆ
เริ่มต้นด้วยบุหรี่ เหล้าขาว กัญชา
และตัวยาที่มีอยู่คล้ายว่าไม่อาจถมเต็มความทุกข์ของเขาได้อีกแล้ว
ครั้งสุดท้ายที่รับรู้ คือ เขาเริ่มสัมผัสกับ “เฮโรอีน”
ยาเสพติดที่ร้ายแรงที่สุดในยุคสมัยนั้น


 


..............................................

 

 


ข่าวคราวเงียบหายไปสองปี
ผมเจอเขาที่คณะฯ
“สบายดีมั้ย” เขาทักทาย
ผมยืนพูดคุยกับเขาชั่วขณะเวลาสั้นๆ...
เราไม่ได้สนิทกันมากเท่าไหร่ ผมถามว่าเขาทำอะไร อยู่ที่ไหน
“ตอนนี้เราอยู่บ้าน ไม่ได้ทำอะไร”
แล้วเขาก็ยิ้มให้ผม “ไปล่ะ เรารักนายนะ”
ผมอมยิ้มในคำลงท้ายที่ไม่ค่อยได้ยินจากเพื่อนผู้ชายด้วยกันเท่าไหร่

 

และไม่นึกเลย...

ว่านั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ผมจะได้ยินจากเพื่อนคนนี้

 


................................................
 



พ่อแม่เขาทะเลาะกันอย่างรุนแรง
และเขายืนอยู่ท่ามกลางความรักที่แตกร้าว
จากเด็กเรียนดี กลายเป็นเด็กมีปัญหาในชีวิต
จากเด็กรูปร่างสูงใหญ่
กลายเป็นเด็กติดยาผอมโซแก้มตอบ
จากเด็กร่าเริง กลายเป็นเด็กเก็บกด
เหงาลึกและเศร้าซึมตลอดเวลา

...ท้ายที่สุด เขาเลือก “ความตาย” ประหัตประหารตัวเอง
เพื่อเซ่นสังเวยความรักที่แตกร้าวของพ่อแม่
มอบของขวัญวันหย่าร้าง ด้วย “ชีวิต” ของเขา
กำนัลแด่ผู้บังเกิดเกล้า
เขาผูกคอตายในห้องพัก.......
ตายอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย


 


.......................................................

 


ผมเขียนกลอนบทนี้ด้วยความรู้สึกหลังจากที่รับรู้เรื่องราวของเขา
เสียดายที่เขาไม่เลือกที่จะอยู่
....อยู่เพื่อหาโอกาสใหม่ๆในการแก้ปัญหา
เสียดายที่ไม่ได้เข้าใจเขามากพอ และดึงเขาให้ออกห่างจากยาเสพติด
เป็นความเสียดายที่ไม่อาจทำสิ่งใดได้อีก
นอกจากรับรู้ เสียใจ และจดจำว่าครั้งหนึ่ง
เขาคือเพื่อนของเรา
เขาจากไปแล้ว...
เขาซึ่งเป็นเพียงแค่ “เงาแห่งรัก...ในความตาย”.












กล่องความคิดเห็น

การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่