บทความทั่วไป

อภัย...แต่ไม่เคยลืม

กะว่าก๋า

เขียนโดย : กะว่าก๋า

 

 



หลายครั้งในชีวิต...
ที่ผมได้พบ ได้รู้จักกับคนหลายคน
ซึ่งผมรู้สึกว่า คนเหล่านั้น... “ใช้ไม่ได้”

ในความรู้สึกของตัวเอง

คนเหล่านั้นย่อหย่อนในด้านคุณธรรมน้ำมิตร
ทั้งเรื่องของน้ำใจที่แห้งเหือด เล่ห์เหลี่ยม กลโกง
จิตใจเต็มไปด้วยความเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว
พฤติกรรมหลายอย่าง..
เห็นแล้วได้แต่บอกตัวเอง... “อย่าแม้แต่จะคิดที่จะทำ” แบบคนพวกนั้น


 


....................................

 

 


ผมรู้สึกโกรธ เคียดแค้น และชิงชังในพฤติกรรมเหล่านั้น
แต่สุดท้ายก็ทำใจให้อภัยคนเหล่านั้นเสมอ
อภัย...แต่ไม่เคยลืมสิ่งที่เขาทำกับผม
กับครอบครัวของผม
ไม่เคยลืม...และไม่มีวันลืม


 


......................................
 

 



ผมไม่เคยคิดที่จะสาปแช่งคนเหล่านั้น
แต่ดูราวกับสิ่งต่างๆที่เขาทำนั้นมีตัวตน
เสมือนดังเงาที่เดินตามติดชิดใกล้
บาปย้อนกรรม....กรรมตามสนอง
ผมพบความจริงข้อหนึ่งที่พิสูจน์ความเชื่อของตนเองได้ดี
“เวรกรรมมีจริง”
คนที่ผมชิงชังเหล่านี้ในเวลาต่อมาไม่นาน
กลับมีชีวิตที่ตกต่ำดำดิ่ง
หลายคนประสพชะตากรรมอันน่าสลดหดหู่ น่าสมเพชเวทนา
ครอบครัวที่ร่ำรวยมาจากการคดโกงเอาจากผู้อื่น
กลับกลายเป็นครอบครัวที่แตกร้าว พ่อไปทาง แม่ไปทาง
ลูกหลานไม่ประสบความสำเร็จในการเรียน
จับต้องธุรกิจอะไรก็พาลให้ล้มเหลวและขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
ชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทองที่เคยมีก็ลดน้อยถอยลง
คนที่เคยนับหน้าถือตาพากันดูถูกเหยียดหยามและหลีกเร้นไม่คบหาสมาคมด้วย
ผมไม่รู้จริงๆว่าในสภาวการณ์แบบนี้
ต่อให้เหลือเงินเก็บเป็นล้านๆ
คนเรายังหลงเหลือความภาคภูมิใดๆในชีวิตอีกหรือไม่


 


...............................................

 

 


นี่คือ “ความจริง” ที่ผมได้พบเห็นและประสพโดยตรง

จากประสบการณ์ตรงของตัวเอง
ถึงแม้รู้ดีว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่สมบูรณ์พร้อมในทุกอย่าง
แต่ขอให้เชื่อเถิดว่า “เวรกรรม” นั้นมีจริง
ทุกสิ่งที่ปรากฏในวันนี้และวันหน้า
คือผลพวงร่องรอยของสิ่งที่เราได้เคยกระทำไว้เมื่อครั้งอดีต

“ความจริง” ที่เห็น
ยิ่งตอกย้ำ “ความเชื่อ” ที่ว่า…


“ทำดี...ได้ดี ทำชั่ว...ได้ชั่ว”



เราเองไม่ต้องไปตัดสินใครเลยว่าดี เลว ถูก ผิด
ไม่ต้องไปสาปแช่งด่า หรืออาฆาตเคียดแค้น
ให้อภัย และอโหสิกรรมพฤติกรรมชั่วร้ายเลวทรามเหล่านั้น
สิ่งที่เราควรทำ
คือนั่งเฝ้ามองดูชะตากรรมของคนเหล่านั้น
ที่ต้องรับผลกรรมจากการกระทำของพวกเขาเอง.



กล่องความคิดเห็น

narong โพสเมื่อ 3 ก.ย. 2012 21:55:13
การตำหนิติเตียนผู้อื่น ถึงเขาจะผิดจริงก็เป็นการก่อกวนจิตใจตนเองให้ขุ่นมัวไปด้วย ความเดือดร้อนวุ่นวายใจที่คิดตำหนิผู้อื่นจนอยู่ไม่เป็นสุขนั้น นักปราชญ์ถือเป็นความผิดและบาปกรรม ไม่มีดีเลย จะเป็นโทษให้ท่านได้สิ่งไม่พึงปรารถนา คติธรรม คำสอนของ หลวงปู่มั่น

การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่