ลงจากหลังเสือ
เขียนโดย : กะว่าก๋า
หลายครั้ง...ที่หลายคน
มองว่าการที่คนๆหนึ่งจะเลือกดำรงชีวิตด้วยความเรียบง่าย
สันโดษ และไม่ทะเยอทะยาน
ว่าเป็นคนไม่เอาไหน....
นั่นอาจเป็นมุมมองของคนในยุคที่เงินคือพระเจ้า
แม้ว่าเงินเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการดำรงชีวิต
แต่ความสุขที่แท้จริงในชีวิตนั้น
เงินอาจเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้นเอง
ถ้ามองกันจากข้อเท็จจริงของชีวิต
เราจะพบว่า เราไม่จำเป็นต้องมีบ้านหลังใหญ่
ไม่จำเป็นต้องมีรถหลายคัน
ไม่จำเป็นต้องมีเงินเป็นพันเป็นหมื่นล้าน
ไม่จำเป็นต้องมีคนรับใช้แวดล้อมราวกับฝูงวัวควาย
เวลาเราล้มตัวลงนอนเราใช้พื้นที่แค่ไม่กี่ตารางเมตร
เราใช้รถก็เพื่อเดินทางไปให้ถึงจุดหมาย
เรามีเงินมากมายที่จะดื่มกินอาหารเลิศรส แต่กินได้ไหนกันเชียว
กินได้แค่อิ่ม...อิ่มแล้วก็ขับถ่ายออกมา
..........................................
ไม่มีสิ่งใดที่เป็นนิรันดร์เลย
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของเรา อำนาจ ทรัพย์สินเงินทอง
บริวารแวดล้อม คนที่อยู่ใกล้ชิด
ไม่เขาก็เรา...ไม่นานย่อมต้องตายจากกัน
แต่ข้อเท็จจริงไม่ได้ทำให้เราต้องใช้ชีวิตอย่างซังกะตาย
หรือนั่งหายใจทิ้งเพื่อรอวันตาย
กลับกัน...การรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีเสื่อม มีสลาย ดับดิ้น
และผุพังไปในที่สุด
ทำให้เราตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท
ใช้ชีวิตอย่างมีสติ และมุ่งทำชีวิตของตนให้มีคุณค่ามากที่สุด
ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
ความฝัน ความหวัง จุดมุ่งหมายในชีวิต
ย่อมเป็นเรื่องดีที่ใครมีและทำได้ตามที่หวัง
แต่จุดไหนของชีวิตที่เราคิดว่าเพียงพอ
เพราะเมื่อเรายิ่งโลภ จุดสุดท้ายย่อมไม่มีทางสิ้นสุด
ถ้าเราคอยเปรียบเทียบกับคนอื่น
เราย่อมไม่มีวันพึงพอใจในชีวิตของตนเอง
.................................................
หลายคนเลือกเดินขึ้นขั้นบันไดของชีวิต
เดินขึ้นไปสูงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับหนทางทอดยาวไม่มีจุดสิ้นสุด
ผมไม่รู้....ว่าหากเราเลือกที่จะเดินสูงขึ้นไปเรื่อยๆนั้น
ข้างบนจะเหน็บหนาวและอ้างว้างเพียงใด
ผมแค่อยากนั่งลงบ้างที่ข้างทาง
ทบทวนตัวเองไปตามระยะเวลาในช่วงอายุ
ถามตัวเองบ่อยๆว่า แท้ที่จริงแล้ว…
ความสุขสุดท้ายที่เราต้องการอย่างแท้จริงในชีวิตคืออะไร ?
ผมเชื่อว่ามันไม่ใช่เงินจำนวนมหาศาล อำนาจล้นฟ้า
หรือวัตถุล้ำค่าใดใดเลย
ด้วยคำตอบที่ผมมีอยู่
ผมคงเลือกที่จะไม่เดินสูงขึ้นไป...สูงขึ้นไป
สูงขึ้นไป....
เพียงเพื่อไปพบกับความว่างเปล่าในชีวิต.
....................................................
บทบันทึกนี้เขียนขึ้นไว้เกือบสิบปีที่แล้ว
เมื่ออ่านจบ...ผมนั่งคุยกับตัวเองเหมือนกัน
ว่ายังรู้สึกแบบนี้อยู่หรือไม่.....
เหมือนดูคล้ายคนผู้ปล่อยวาง และไม่อินังอิขอบกับเงิน
ซึ่งไม่ใช่....ผมทำงาน มีเงิน และใช้เงิน
เพียงแต่ชีวิตของคนรอบข้างมากมาย
ที่เน้นย้ำให้ผมเชื่อว่า เงินไม่ใช่คำตอบของชีวิต
คนรวยรอบตัวก็ยังทุกข์เรื่องความรัก
เรื่องหน้าตา เรื่องโรคภัย เรื่องครอบครัว
สุดท้ายเงินก็รักษาอะไรไว้ไม่ได้เลย
แม้แต่"ชีวิต" ที่คิดว่าเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด
ก็ไม่อาจเก็บกักไว้ได้...
กล่องความคิดเห็น
การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่