ผลประโยชน์บนความรู้สึก

เขียนโดย : กะว่าก๋า

เราไม่ใช่เจ้าของความรู้สึก
เราจึงไม่รู้สึกครอบครอง

เราไม่ใช่เจ้าของความฝัน
เราจึงไม่มุ่งมั่นที่จะยึดถือ

เราไม่ใช่เจ้าของความหวัง
เราจึงไม่คาดหวังให้ใครมุ่งหวัง

เราไม่ใช่เจ้าของความผูกพัน
เราจึงไม่มีความสำคัญ แม้ในวันเลิกรา

เมื่อมันคือเกม
ที่เดิมพันด้วยความร่ำรวย
ก็อยู่ที่ใครจะฉกฉวย
ผลประโยชน์บนความเฉยชา




...........................................

 

ยิ่งทำงานในระดับวงกว้างมากขึ้นเท่าไหร่
ยิ่งผ่านเข้าไปในสังคมชั้นสูงบ่อยครั้งเท่าไร
หัวใจยิ่งเกิดคำถามมากมายตามมา
หรือผมไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ร่วมกับคนสายพันธุ์นี้
ไม่เหมือน ไม่คล้าย ปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้
และไม่มีวันกลมกลืน

 

.........................................

 

ผมวางตัวยากมากเมื่อต้องเริ่มต้นด้วยธุรกิจ
โดยเฉพาะธุรกิจที่แฝงมากับคำว่า “มิตรภาพ”
เพื่อนหลายคนที่ไม่เจอกันหลายปี
วันหนึ่งอยู่ๆก็โทรมา
“เฮ้ย...นายสบายดีรึเปล่า คิดถึงนายจัง”
ก่อนที่จะบอกความรู้สึกตื่นเต้นของตัวเองให้เพื่อนรู้
ประโยคถัดมาก็ทำลายความรู้สึกดีดีที่กำลังเกิดขึ้นจนหมด
“นี่..เรามีอะไรดีดีจะมานำเสนอ...........”
แล้วรายละเอียดของการขายประกันก็ตามมา
ผมถือหูฟังเงียบๆ....
พอบอกว่ายังไม่ทำตอนนี้ เพื่อนก็ขายสินค้าขายตรงต่อทันที
ไม่เว้นช่องให้ผมพูดสักคำว่า “คิดถึงกัน”
ผมบอกเขาไปว่าไม่สนใจสินค้าพวกนั้นหรอก
อยากไถ่ถามพูดคุยสารทุกข์สุกดิบกันมากกว่า
สุดท้ายเขาพยายามชวนให้ทำบัตรเครดิตกับเขา
ผมปฏิเสธไปอีกครั้งว่ายังไม่ใช่ตอนนี้

น้ำเสียงเพื่อนฟังดูผิดหวังที่วันนี้เขาไม่ได้ลูกค้าใหม่
แต่ผมเสียเพื่อนเก่าไปอีกคน
เพื่อนคนที่เคยเป็น “เพื่อน”
แต่พยายามจะเปลี่ยนสถานะของ “เพื่อน”
ให้กลายเป็น “ลูกค้า” ให้ได้
แล้วผมก็วางสายโทรศัพท์ไป

ไม่ได้โกรธเคืองเขาเรื่องการทำมาหากิน
แต่ให้มันแนบเนียนกว่านี้สักหน่อยไม่ได้หรือ
หรือยุคนี้มันต้องขาย ขาย ขายๆๆๆๆ
ขายจนหมดไม่เหลือ....
แม้แต่ความเป็น “เพื่อน”
 

..........................................
 

การทำมาค้าขาย...

ทำอย่างไรจึงจะรู้สึกดีกับตัวเองมากที่สุด
ถ้าบอกค้าขายแล้วไม่หวังกำไรก็ต้องบอกว่าตอแหลหน้าด้าน
ค้าขายย่อมต้องหวังผลกำไร...
เพียงแต่มันต้องเป็นกำไรที่สมเหตุสมผล
จะกำไรสองบาท กำไรหนึ่งเท่า กำไรร้อยเท่า
ไม่สำคัญเท่ากับที่เราต้องรับผิดชอบกับคุณภาพสินค้า
ต้องตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า
พูดความจริงกับลูกค้า รับผิดชอบในสินค้าของตัวเอง
เพราะท้ายที่สุด...
ผมเชื่อว่าลูกค้าไม่ได้ซื้อสินค้าเพราะตัวสินค้าเองทั้งหมด
หากแต่บางที...เขาซื้อเพราะเขาเชื่อมั่นในตัวของเรา


แล้วผมต้องบอกเพื่อนเก่าของผมหรือเปล่า
ว่านักขายที่ดีควรเป็นอย่างไร ?