บทความทั่วไป

การศึกษาตายแล้ว

กะว่าก๋า

เขียนโดย : กะว่าก๋า

 

 




สิบห้าปีก่อน....
ผมไปเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศ
ไปในนามของนักเรียนทุน
ไปแบบเต็มเปี่ยมด้วยความหวังว่าจะได้พบกับการศึกษาที่ดี
การได้พัฒนาความรู้ของตนเอง และการเติบโตทางความคิด
ในความมุ่งหวังของชีวิต ผมคิดที่จะเป็นครู
นั่นเป็นเป้าหมายที่วางแผนไว้มาโดยตลอด
ที่นี่...น่าจะตอบสนองเป้าหมายของผมได้ดีที่สุด
ตรงกับสาขาความรู้ที่ได้เรียนมาที่สุด


 

 


............................................
 

 



สิ่งที่ผมได้พบ คือ สิ่งที่แปลกแตกต่างไปจากความคาดหวัง
แบบหน้ามือเป็นหลังเท้า
อาจารย์ที่นี่(บางคน) คือ นักธุรกิจที่สวมเสื้ออาจารย์คลุมทับ
คือ คนทำงานที่มีอาชีพสอนหนังสือเป็นงานอดิเรก
เข้ามาสั่งงาน แล้วก็หายไปแทบจะในทันทีทันใด
เพื่อไปรับงานนอกซึ่งมีรายได้มากกว่าไม่รู้กี่เท่าตัว
การตัดเกรดและการให้คะแนนที่เคลือบแคลงและน่าสงสัย
บรรยากาศการเรียนที่ไม่ได้ทำให้ศิษย์กับอาจารย์ผูกพัน

หรือแลกเปลี่ยนความคิดกันได้

(เพราะอาจารย์แทบไม่เคยอยู่ติดคณะฯ)


ผมปรับตัวให้เข้ากับที่นี่ไม่ได้
ผมไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อกระดาษแผ่นเดียว
แต่มาเพื่อมุ่งหวังความรู้ และเพื่อกลับไปเป็นครูอย่างที่ตัวเองมุ่งหวัง


 

 


.............................................
 

 



เพียงปีเดียว....

ผมพบว่าตัวเองไม่สามารถกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมของที่นี่ได้
ไม่ศรัทธาอาจารย์ในคณะฯ
ไม่นับถือระบบการศึกษาแบบนี้
และเพื่อนใหม่ไม่ได้ชนะใจผมอย่างที่หวังตั้งใจ
บางที...ที่นี่อาจไม่ได้มีปัญหาอะไร
ยกเว้นตัวผม...ที่ดูว่าเรียกร้องสูงเกินไป คาดหวังมากเกินไป


 

 


...........................................








ภาพนี้เป็นหนึ่งในหลายรูปที่ผมวาดขึ้นเพื่อประกอบการจัดนิทรรศการศิลปะ
มันดูแรงมาก เฉพาะบอร์ดที่ผมรับผิดชอบ มีแต่รูปที่ดูรุนแรง
เศร้า ผิดหวัง มีบทกวีที่เขียนวิพากษ์ระบบการศึกษา
วิจารณ์อาจารย์ของตัวเอง
ผมไม่รู้ว่าท่านคณบดีรู้สึกอย่างไรในวันเปิดงาน...
มีเพื่อนมาบอกให้ผมทราบในภายหลังว่า
คณบดีมาหยุดยืนที่บอร์ดผม ยืนอ่านงานที่ผมเขียนเงียบๆ
ยืนดูรูปหนึ่งอยู่นานมาก
มันเป็นรูปวาดที่ใหญ่ที่สุดในงานนิทรรศการนี้
ที่ผมวาดและแขวนไว้…
มันเป็นรูปนักศึกษาที่ถูกแขวนคอ
ที่ใบหน้าของเขาถูกปิดตาด้วยผ้าดำ ถูกมัดมือ มัดเท้า
ตัวอักษรสีดำขนาดใหญ่เขียนทับไว้ว่า

 


“education is dead”

 

 


............................................
 

 



ภายหลังจากงานนิทรรศการนี้...
ผมทราบข่าวจากอาจารย์รุ่นพี่ที่สนิทกัน
ว่าคณบดีเรียกหัวหน้าแผนกที่ผมเรียนอยู่เข้าพบ
จากนั้นในวันเดียวกัน
หัวหน้าแผนกก็เรียกอาจารย์รุ่นพี่ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของพวกผมเข้าพบ
ผลคือ อาจารย์รุ่นพี่ตัดสินใจลาออกในปีนั้น
ปีเดียวกับที่ผมเรียนจบ......


 


.............................................
 

 



เป็นการเรียนรู้ที่เจ็บปวด และทำลายความหวังของผมจนหมดสิ้น
แต่ในมุมที่เลวร้าย ผมกลับได้พบกับแง่มุมดีดีบางด้าน
คือ ผมได้พบกับอาจารย์ที่ดีมากในความหมายของ
“การเป็นครูที่ดี” จากอาจารย์ที่สอนด้านการศึกษา
หลายท่านตั้งใจสอน ตั้งใจถ่ายทอดความรู้อย่างไม่ปิดบัง
สามารถเข้าคุยปรึกษาได้ตลอด
เป็นด้านที่อบอุ่น ท่ามกลางความเย็นชาในคณะฯของตัวเอง


 

 


………………………………………….

 

 

 


ผมไม่เคยสนใจไถ่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น
หลังจากวันที่ตัวเองจบออกมา
ผมไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่ดีขึ้นมากนัก
เพียงแต่รู้ว่า....
กว่าผมจะลืมฝันร้ายที่นั่น
ก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปีต่อมา....

 

 

 

 

กล่องความคิดเห็น

การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่