บทความทั่วไป

คนลืมตัว

กะว่าก๋า

เขียนโดย : กะว่าก๋า

 

 





1.


ดอกไม่โตเต็มก้าน     ไม้ไม่โตเต็มใบ
หยิ่งผยองไปใย     ใจเจ้ายังไม่เบ่งบาน
เปรียบดังเด็กแรกเกิด     เพิ่งเริ่มเตาะแตะคลุกคลาน
เพียงเริ่มก้าวกลับเริ่มระราน     วันนี้...ใจนั้นใหญ่เกินตัว

 


สำเหนียกเพรียกตนไว้บ้าง    ก่อนภาพจืดจางจักมัวหมอง
เธอคงพอรู้อยู่บ้าง   ดี-ชั่ว ปรับตัว ปรับใจ...ยังไม่สาย

นอบน้อมถ่อมตนบ้างเถิด   คนเราเกิดใหญ่แค่ตาย
ยังเล็ก คิดเล็ก อย่าก้าวไว      เป็นได้ ทำได้...ให้พอตน


 

 

 



2.


เติบโต...ให้โตอย่างเข้มแข็ง
อย่าโต...ด้วยอวดเบ่งเก่งกล้า
โตผิดวัยเยี่ยงนี้ใครนำพา
หรืออยากโหยหาความเดียวดายในชีวิต


 


3.


ถ่อมตัวไว้บ้างเถิด
เธอเพิ่งเกิดในโลกหล้า
ผ่านหนาว ผ่านฝน ไม่กี่ครา
อย่าเลย อย่าทะนง หลงตัวเอง

 


ที่เตือนเพราะห่วง
กลัวใจลวง...ลวงใจเธอผิดพลั้ง
แล้วแต่เธอจะฟังหรือไม่ฟัง
อยากจะพังชีวิตนี้ตอนนี้...ก็ตามใจ.




…………………………………….


 

 

 


นึกถึงตอนตัวเองเรียนจบใหม่ๆ
ไฟฝันเต็มเปี่ยม ได้ทำ ได้เป็นในสิ่งที่ตนเองมุ่งหวังตั้งใจเสียที
ผลปรากฏว่า “ความฝัน” กับ “ความจริง” นั้น
เป็นคนละเรื่องกันอย่างสิ้นเชิง
“สิ่งที่คิด” กับ “สิ่งที่ทำ” หลายครั้งหลายหน
เป็นสิ่งที่ฝืนความรู้สึกของตัวเราอย่างกระอักกระอ่วน
“ความแตกต่าง”นั้น.....
ทำให้เราได้เรียนรู้ความจริงบางด้านของชีวิตอย่างรวดเร็ว


นั่นคือ....


“ไม่ใช่ทุกคน ไม่ใช่ทุกสิ่ง ที่มันจะเป็นไปอย่างที่คุณต้องการ”
 



..............................
 

 



“ความเป็นหนุ่ม” ไม่เกี่ยวกับวัยหรืออายุ
แต่เป็นเรื่องของ “ความคิด” ล้วนๆ
“ความหนุ่ม” ในความหมายของผม
คือ ความสด ความกระชุ่มกระชวย กล้าตัดสินใจ
และพร้อมที่จะเสี่ยงและแลกได้ทุกอย่าง
เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ
เป็นการใช้วิธี “บุกตะลุย” แบบไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
เป็นการใช้ชีวิตแบบ “ข้ามน้ำแล้วเผาสะพาน”

ผมเองก็เคยเฉียดผ่านความคิดแบบนี้มาไม่น้อย
คิดว่าเราเจ๋ง เราแน่
ความคิดเรา บวกกับความเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง
ทำให้บางครั้งในสายตาคนรอบข้าง
ก็มักประทับตรา “เก่งแต่ก้าวร้าว” ไว้บนหน้าผากของตัวเราตลอด

กว่าจะรู้ว่าเราควรใช้ชีวิตแบบ “รวงข้าว”
ก็ต้องผ่านการทำงานหล่อหลอมมาหลายปี
ถึงได้คิด ได้รู้ว่า “รวงข้าว”นั้น
มีคุณค่าเพราะว่ามัน “อ่อนน้อมถ่อมตน”
โน้มลงมา แต่ไม่ได้สูญเสียตัวตน
หากแต่ “อ่อนน้อม พร้อมเรียนรู้”
แทนที่จะมุ่ง “เอาชนะและฟาดงวงฟาดงา” ตลอดเวลา

 

 



....................................
 

 



“รู้ว่าผิด ก็ปรับตัวปรับใจได้
ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นปรับปรุงตัวเอง
ผิดตั้งแต่เยาว์วัย เรียนรู้ และเปิดใจยอมรับความจริง
ถอยหลังมาอีกนิด
ปรับความเร็วในการใช้ชีวิตให้ช้าลงมาสักหน่อย
ทำเสียตอนนี้...ตอนที่อายุยังน้อย
คงดีกว่ารอให้เส้นผมหงอกขาวแล้วก็ทำอะไรกับชีวิตของตนไม่ได้
นอกจากคร่ำครวญเสียใจไปวันๆ”

 


ผมได้แต่บอกเตือนตัวเองไว้อย่างนี้.





กล่องความคิดเห็น

การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่