บทความทั่วไป

สอนด้วยชีวิต

กะว่าก๋า

เขียนโดย : กะว่าก๋า





เมื่อลูกชายวัยสิบเจ็ดอยากเจริญรอยตามพ่อ
ผู้เป็นนักย่องเบาฝีมือดีที่สุดในแผ่นดิน
พ่อเห็นว่าลูกโตพอแล้ว

จึงอนุญาตให้เขาตามไปขโมยของที่บ้านเศรษฐีใหญ่ในเมืองด้วย
เนื่องจากบ้านหลังนี้เจ้าของบ้านร่ำรวยมาก

จึงมียามเฝ้าทั้งด้านหน้าและด้านหลังเป็นจำนวนมาก
แต่ด้วยฝีมือแบบเซียนเหยียบเมฆ
ไม่นานทั้งคู่ก็ทะลุเข้าสู่ตัวบ้าน
ผู้เป็นพ่อกระซิบบอกลูกชายให้แสดงฝีมือให้เต็มที่
เดี๋ยวพ่อจะถ่ายทอดเคล็ดวิชาลึกล้ำที่สุดของพ่อให้ในคืนนี้


“เจ้าเดินเข้าไปในห้องเศรษฐีสิ ทำให้เงียบที่สุดล่ะ พ่อจะดูต้นทางให้”

ผู้เป็นพ่อกระซิบ


ลูกชายพยักหน้ารับทราบ เขาสะเดาะกลอนประตูอย่างช่ำชอง
เดินเข้าไปคล้อยหลังไม่นาน
ผู้เป็นพ่อเห็นดังนั้น ก็ร้องตะโกนขึ้นด้วยเสียงอันสุดดังว่า


“ขโมยเข้าบ้าน แย่แล้วๆ ขโมยเข้าบ้าน!!!”

 

จากนั้นก็หลบหนีออกมาจากบ้านหลังนั้นอย่างรวดเร็ว



ลูกชายซึ่งขณะนั้นกำลังเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อค้นหาทรัพย์สิน
ตกใจเป็นอันมากเมื่อได้ยินเสียงพ่อของตนตะโกนอย่างนั้น
เจ้าของบ้านสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขารีบเปิดไฟในห้อง
ผู้คนมากมายในบ้านแตกตื่น ยามวิ่งพล่านตรวจตราทันที
ชายหนุ่มซ่อนตัวในตู้เสื้อผ้าได้ทันอย่างหวุดหวิดจวนเจียน
ก่อนที่เศรษฐีจะเปิดไฟจนสว่างไสว

ยามหลายคนรีบวิ่งมาที่ห้องเศรษฐี ถามไถ่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เจ้าของบ้านบอกว่าไม่เป็นไร ปลอดภัยดี
ว่าแล้วก็บอกให้ทุกคนรีบออกค้นหาโจร
ชายหนุ่มซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้าครู่ใหญ่
เมื่อเห็นเสียงในห้องเงียบไป จึงรีบออกมาจากตู้
สมองของเขาต้องทำงานอย่างหนัก...
เขาปีนขึ้นไปบนฝ้าเพดานอย่างคล่องแคล่ว
แต่เนื่องจากน้ำหนักตัวของเขาไม่น้อย
เสียงจึงดังกรอบแกรบ
ผู้คนวิ่งกรูกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง


“เสียงอะไรว่ะ หรือว่าโจรมันซ่อนอยู่บนฝ้าเพดาน”


เขาใจหายวาบ....นึกได้ว่าตนเองเป็นคนชอบเลียนเสียงสัตว์


“จิ๊ดๆๆๆๆ” เขาร้องเลียนเสียงหนู ใช้นิ่วทำเสียงกุกกักๆ


“อ้อ...ที่แท้ก็ไอ้หนูเวรนี่เอง” หัวหน้ายามพูดขึ้น

“ไปๆ เราออกไปหาโจรกันต่อ ข้าว่ามันยังอยู่ในบ้านนี่แหละ”


เมื่อคนออกไปอีกครั้ง

เขาค่อยคลานผ่านฝ้าเพดานไปลงยังห้องครัว

จากนั้นวิ่งไปซ่อนตัวในสวนหลังบ้าน

ทันใดนั้นมียามเดินผ่านมาสองคน เขาแกล้งร้องเลียนเสียงแมวอีกครั้ง

ก้มตัวติดพื้น ซ่อนตัวหลังพุ่มไม้


“เมี้ยววว.....”


“สงสัยแมวมันหาคู่” ยามพูดกับเพื่อนยามด้วยกัน

“เราไปเดินหาไอ้โจรห้าร้อยกันต่อดีกว่า”



เมื่อยามเดินคล้อยหลังไป เขารีบกระโดดปีนขึ้นกำแพง
วิ่งกลับมายังที่บ้านอย่างปลอดภัย
พ่อของเขานั่งรออยู่แล้ว ชายหนุ่มต่อว่าพ่อของเขาทันที


“ทำไมพ่อทำกับผมอย่างนี้ ผมเกือบตาย เกือบถูกจับรู้ไหมพ่อ”


พ่อยิ้ม...ก่อนบอกลูกชายนั่งลง

แล้วให้ลูกชายเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง


เมื่อเล่าจบ...
พ่อจึงพูดขึ้นว่า


“นี่เป็นบทเรียนเดียวที่พ่อจะสอนลูกได้ และลูกสอบผ่านแล้ว”






กล่องความคิดเห็น

การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่