อยู่หรือจาก
เขียนโดย : กะว่าก๋า
หลายปีก่อน
ที่ร้านหลังคารั่ว ยิ่งวันไหนฝนตกหนัก
น้ำเจิ่งนองไปทั่ว
ผมจึงตัดสินใจซ่อมกระเบื้องหลังคาที่แตกอยู่
โดยเรียกช่างขึ้นไปเปลี่ยนกระเบื้องที่แตกอยู่
ผมตะโกนสั่งการอยู่ข้างล่าง โดยมีช่างสามสี่คนปฎิบัติงาน
ด้วยเหตุที่ช่างทำงานไม่ทันใจ
ผมจึงตัดสินใจปีนขึ้นไปบนหลังคาเพื่อตรวจดูรอยแตกของกระเบื้องด้วยตนเอง
แม้จะระมัดระวังอย่างถึงที่สุด....
แต่แล้วอุบัติเหตุก็เกิดขึ้น
“พลั๊ว !!!!!!” เท้าขวาผมเหยียบลงไปที่กระเบื้อง
ทั้งๆที่ดูดีแล้วว่าเป็นช่วงรอยต่อกระเบื้องที่วางอยู่บนโครงสร้างเหล็ก
แต่กระเบื้องซึ่งใช้งานมานานนับสิบปีก็เปราะบางและผุกร่อน
ใจหล่นหายวูบ !!!
วินาทีนั้น ด้วยสติที่เหลือเพียงน้อยนิด
ทำให้มือขวาของผมเอื้อมเกาะแผ่นกระเบื้องหลังคาด้วยสัญชาติญาณ
ช่างยืนตกตะลึงที่เห็นผมห้อยต่องแต่งอยู่ตรงช่องแตกของรอยกระเบื้องนั้น
ผมรีบใช้มือซ้ายเกาะยึดโครงจันทันเหล็กเอาไว้
แต่ไม่มีแรงมากพอที่จะดึงตัวขึ้นมาได้
ผมตะโกนบอกช่างว่า ให้ค่อยๆเดินเข้ามาทีละคน และเข้ามาสักสองคนก็พอ
เดี๋ยวหลังคาจะรับน้ำหนักไม่ไหว
...ในที่สุดผมก็รอดปลอดภัยได้อย่างเหลือเชื่อ
ลงมาถึงพื้น ผมมองขึ้นไปที่รอยแตกกระเบื้อง
ถ้าหล่นลงมาจากความสูงสี่เมตรตรงนั้น
ไม่ตายก็คางเหลือง...
แถมด้านล่างตรงพื้นก็เป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซด์
ซึ่งในตอนนั้นก็มีมอเตอร์ไซด์จอดเรียงรายอยู่เต็มไปหมด
เนื้อกับเหล็ก แลกกัน....ไม่ต้องถามว่าใครจะเละ
....................................
ผมรู้สึกสัมผัสได้ถึงคุณค่าของ “ชีวิต”
หลังจากผ่านความหวาดเสียวที่สุดครั้งหนึ่งมาได้
ภาวะเฉียดตายใกล้เจ็บ ช่วยกระชากผมให้มายืนอยู่เบื้องหน้าความจริงของชีวิต
ให้เราได้ตระหนักรู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว “การอยู่” กับ “การตาย” นั้น
อยู่ใกล้ชิดติดกันมาก
เหมือนกับเหรียญซึ่งมีสองด้าน....
เหรียญซึ่งพร้อมจะพลิกไปสู่ด้าน “ความเป็น” หรือ “ความตาย”
ได้ตลอดเวลา
.....................................
“อยู่” หรือ “จาก”
บางทีอาจไม่ใช่สาระสำคัญ
“คุณค่า” ของการอยู่หรือจากนั้นต่างหาก
ที่ผมคิดว่าคนเราไม่ควรละเลยเพิกเฉย
เพราะกับคนบางคน
“อยู่” ก็เหมือน “ตาย”
และสำหรับคนบางคน
แม้ “ตาย” จากเราไปแล้ว.....
เขาก็ยัง “อยู่” ในใจของเราเสมอ.
กล่องความคิดเห็น
การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่