ทำบุญด้วยศรัทธา
ทำ บุญ ด้วย ศรัท ธา
นึกถึงคำพูดของ “หลวงพ่อพุทธทาส” ที่เคยเทศน์สอนเรื่องการทำบุญไว้ว่า “อย่าได้หลงบุญบ้าบุญจนทำให้เกิดความทุกข์กับตน แต่ให้ทำบุญให้เกิดคุณ โดยไม่ไปทำลายความดีของบุญ” ท่านหมายความว่าถ้าจะทำบุญก็ให้ทำด้วยความพอดี อย่าทำบุญแล้วต้องพาชีวิตเศร้า เพราะทำกันจนหมดเนื้อหมดตัว
บางสำนักมักเชิญชวนให้ญาติโยมทำบุญครั้งละมากๆ โดยบอกว่ายิ่งทำมากยิ่งได้มาก ส่วนญาติโยมพอได้ยินก็พากันทุ่มมากมาย บางคนทำเป็นล้าน บางคนหลายก็ล้าน
ที่วัดสวนแก้วมีโยมหลายคนมาถือศีลปฏิบัติธรรมเล่าให้ฟังว่าแต่ก่อนเวลาทำบุญทุ่มแทบจะหมดเนื้อหมดตัว หาเงินมาได้เท่าไรทำบุญหมด อาตมาฟังแล้วรู้สึกสะเทือนใจที่ญาติโยมขาดความเข้าใจในเรื่องการทำบุญ เพราะหวังว่ายิ่งทำมากเงินทองก็จะกลับมาหรือได้บุญมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิด เพราะการทำบุญในพุทธศาสนานั้นเน้นจิตศรัทธา ไม่ใช่จำนวน
ยุคนี้หากวัดไหนมีสื่ออยู่ในมือสามารถใช้สื่อเรียกคนมาทำบุญได้ บางวัดสามารถดึงคนได้ไม่ใช่น้อย บางวัดถึงขนาดบอกว่ายิ่งทำยิ่งเพิ่ม เงินจะไม่มีวันหมด ทั้งๆที่ไม่มีหลักประกันว่าจะเพิ่มจริงหรือไม่ กลายเป็นว่าคิดจะเอาบุญเป็นใหญ่ เอาภัยเป็นรอง ฟังแล้วรู้สึกสงสารที่เชื่อเรื่องการทำบุญครั้งละมากๆกันหัวปรักหัวปรำ โดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาบุญให้รอบคอบ
อาตมาอยากบอกว่าการทำบุญเป็นสิ่งที่ดีและพึงกระทำ แต่ควรทำให้สมกับฐานะ อย่าทำบุญด้วยความเชื่อที่ว่าทำมากๆจะได้บุญมากจนกลายเป็นการทำบุญที่มีเท่าไรก็ทำบุญหมด อันนี้ไม่ถูก
ใครจะมาทำบุญที่วัดสวนแก้วอาตมาไม่เคยบอกให้ทำกันมากๆ ส่วนเงินที่ญาติโยมทำบุญมาวัดจะนำมาเป็นกองทุนไว้ช่วยเหลือคนยากจนต่อไป รวมทั้งคนที่หมดตัวเพราะการทำบุญอาตมาก็ช่วย ซึ่งช่วยมาแล้วหลายคน หรือจะเรียกว่าเป็นกองทุนช่วยเหลือนักบุญยามตกอับก็น่าจะได้
โยมทั้งหลายอย่าคิดว่าทำบุญแบบทุ่มแล้วจะไม่มีวัดตกอับ มาดูที่วัดสวนแก้วได้ ลองมาฟังหรือแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดว่าการทำบุญแบบทุ่มสุดๆเป็นอย่างไร เพราะลูกเต้าคนเหล่านี้ยังโมโหโทโส หาว่าแม่เมาบุญหลงบุญจนลืมครอบครัว กลายเป็นว่าไล่แม่ไปอยู่วัดเพื่อแสวงบุญแทน
เพราะฉะนั้นอยากฝากบอกไปยังคนที่เห็นใครทำบุญแบบทุ่มบุญแล้วอยากทำบ้าง อยากเตือนให้ระวังไว้บ้าง เพราะมีตัวอย่างให้เห็น และสามารถเข้ามาพูดคุยกับญาติโยมเหล่านี้ได้ว่าเขาหมดตัวได้อย่างไรกับการทำบุญแบบทุ่มบุญ
การทำบุญเป็นเรื่องของศรัทธาที่ต้องบวกด้วยปัญญา อย่ายึดการทำบุญในแบบโฆษณาชวนเชื่อว่าทำมากจะได้มาก เพราะไม่ต่างอะไรกับครั้งหนึ่งที่จตุคามรามเทพมาแรง และมักบอกอยู่เป็นประจำว่าคนนั้นรวยเพราะแขวนจตุคามรามเทพ เรื่องบุญจึงเป็นเรื่องเดียวกันที่ต้องเข้าใจว่าไม่ใช่การทำบุญโดยยึดปริมาณมากกว่าแล้วจะได้ผลบุญมากตาม ถ้าทำอย่างนั้นน่าจะเรียกได้ว่า เอาบุญมากลบปัญญา
การทำบุญยังต้องทำแบบสายกลาง คือต้องไม่ทำแบบทุ่มสุดตัว มีเท่าไรทำบุญหมดคงไม่ได้ เพราะชีวิตเราต้องกินต้องใช้ในเรื่องอื่นด้วย หรือในทางตรงกันข้ามอย่าตะหนี่ถี่เหนียวกับการทำบุญ คือคิดแต่ว่าเสียดาย ไม่อยากเสียเงิน ทีเอาเงินไปซื้อของฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็นกับชีวิตกลับมือเติบ แพงเท่าไรไม่ว่าซื้อหมด หรือแม้แต่เอาไปเล่นการพนันและหมดไปกับเหล้ายา อันนี้ก็เกินไป จริงๆการทำบุญโดยไม่ใช้เงินเลยก็มี ซึ่งถือว่าเป็นอานิสงส์เหมือนกัน
พระพยอม กัลยาโณ
กล่องความคิดเห็น
การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่