สวนศาสดา
เขียนโดย : กะว่าก๋า
พร่างพรมเหยียบย่างเท้า
ลงบนพรมบุปผา
ฉันสดุดีความงาม
และตามหาความดี
ในจิตใจของมนุษย์
พลันศาสดาปรากฏกาย
ท่านแย้มยิ้มให้ฉัน
พลางเอื้อมมือมาสัมผัส
ฉันรับรู้ได้ถึงความอิ่มเอิบใจ
รับรู้ได้ถึงจิตใจอันเต็มปรี่ไปด้วยการให้อภัย
…………………………….
ท่ามกลางสายแสงอันแผดร้อน
ใจกลับชุ่มเย็นไปด้วยละอองไอแห่งความเมตตา
นี่คือ พรมบุปผา
นี่คือ สวนศาสดา
นี่คือ สวรรค์ที่ฉันตามหา
นี่คือ สวนแห่งสุดท้ายที่จะปลดปลงความเศร้าออกจากชีวิต
.................................
เมื่อศาสดาปรากฏ
ท่านมาเพื่อชี้นำหนทาง
ท่านมิได้นำทางเพื่อให้คนลุ่มหลงเมามัว
การช่วยเหลือเพียงอย่างเดียวที่ท่านมีให้กับพวกเรา
ย่อมมิใช่การมอบปาฏิหาริย์มอมเมาโง่เขลาเบาปัญญา
หากแต่ชี้ช่องแสงสว่างแห่งปัญญาญาณ
เพื่อให้เราเข้าถึงแก่นแท้แห่งจิตวิญญาณ
ด้วยตัวเราเอง
ด้วยวิธีของเราเอง
ท่านศาสดามิได้มายังโลก
เพื่อให้ผู้คนกราบไหว้บูชา
ท่านมาเพื่อโปรดสัตว์
และนำพาเราให้พ้นไปจากกองสังขารแห่งห้วงทุกข์
ท่านมิได้มาเพื่อให้เรามั่นหมาย ยึดติด
หากแต่มาเพื่อกล่าวถ้อยคำบางคำ
เพื่อให้เราเข้าถึงซึ่งความว่าง
ปล่อยวางความว่างเปล่าที่เราครอบครอง
และปรีชาญาณนี้จะนำเราเข้าสู่
ห้วงแห่งความว่างอันเป็นนิรันดร์
...........................
เพียงไม่นาน
สวนพรมบุปผาพลันแห้งเหี่ยวเฉา
ดอกไม้บานแล้วร่วงโรย
ความสวยงามใดที่ยั่งยืนตลอดกาล....ไม่มี
ความดีงามใดคงทนอยู่เหนือกาลเวลา.......ไม่มี
ดี – ชั่ว – ตัว – ตน
ล้วนว่างเปล่า
และในท้ายที่สุด….
ต่างต้องกลับคืนสู่บ้านหลังเดิมที่เราได้ถือกำเนิดมา
………………………
ย่างเท้าลงบนพรมบุปผาอย่างละมุนละม่อม
สัมผัสสุดท้ายของฉัน….
คือ โอบกอดละมุนละไมจากอ้อมอกแห่งศาสดา.
กล่องความคิดเห็น
การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่