กะก๋าแนะนำหนังสือ - ฉันจะเก็บบ้างนะ
หนังสือ : ฉันจะเก็บบ้างนะ
เรื่องโดย : พีรียา พงษ์สาริกัน
ภาพประกอบโดย : นันทวัน วาตะ
หนังสือที่จัดทำโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ระดับประชาชน
นำเสนอด้วยกลอนหัวเดียว คือ ถามเองและตอบเองในตัวคนเดียว
รูปประกอบสีสันสดใส
ดำเนินเรื่องราวไปพร้อมๆกับบทกลอนน่ารัก
ยกตัวอย่างเช่น....
ผมดมดอกไม้ใช่ไหมจ๊ะ อ๋อ! ฉันเก็บน้ำหวานน่ะจ้ะ
ดอกไม้มีน้ำหวานนะจ๊ะ ฉันเก็บไปสร้างรังจ้ะ
เธอเคยเห็นรังผึ้งไหมจ๊ะ บ้านของฉันเองจ้ะ
บ้านของฉันสวยนะ แต่ใช้น้ำหวานมากพอดูละ
“ดีจังนะ ฉันจะเก็บดอกไม้บ้าง”
..........................................
“ฉันจะเก็บบ้างนะ” บอกเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของเด็กหญิงตัวน้อย
ที่เฝ้ามองธรรมชาติรอบๆตัว
แล้วนำมาประยุกต์ในเรื่องของการเก็บและการออม
เด็กน้อยสังเกตผึ้งทำรังจากการเก็บน้ำหวานจากดอกไม้
ดูนกทำรัง ดูมดขนข้าว มองหมาเก็บกระดูก
เห็นแมวเก็บก้างปลา....
ด้วยจินตนาการแบบเด็กๆ เธอจึงเก็บดอกไม้
เก็บกิ่งไม้ เก็บเมล็ดข้าว เก็บกระดูกและก้างปลา
เลียนแบบสัตว์ต่างๆที่เธอเห็น
แต่แล้วสิ่งที่เก็บมาก็เป็นเพียงแค่ขยะ....
ขยะที่อาจดูไร้ค่าในสายตาของผู้ใหญ่ไร้จินตนาการ.....
และวัดคุณค่าของทุกสิ่งทุกอย่างด้วย
“เงิน เงิน เงินและเงิน”
.................................
เด็กหญิงมองเห็น “บางสิ่ง” ที่ผู้ใหญ่อย่างเราอาจไม่มีวันเคยคิด
เธอปลูกดอกไม้ แล้วนำสิ่งที่เก็บมาใช้เป็นปุ๋ยธรรมชาติ
เมื่อปลูกดอกไม้ ผึ้งก็เข้ามาเก็บกินน้ำหวาน
เธอตัดดอกไม้มาขายได้เงินเพียงเล็กน้อย
ได้เงินมาซื้อข้าวกิน มดได้กินข้าวด้วย
ซื้อปลาทูมากิน แมวได้กินก้างปลา
ซื้อไก่ทอดมากิน หมากได้กินกระดูก
แถมเงินที่ได้จากการขายดอกไม้ยังเหลือเก็บใส่กระปุกได้อีก
...................................
หนังสือเล่มนี้มิได้เพียงบอกสอนเรื่องการเก็บออม
หากแต่ยังพูดถึง “การอยู่ร่วมกันของธรรมชาติ”
ได้อย่างมีเสน่ห์
นานแค่ไหนแล้วที่มนุษย์เราทำการค้าแบบ “ห้ำหั่น”
สู้กันด้วยกลยุทธ์และสงครามราคา
ใหญ่กลืนเล็ก รวยกว่า ทุนหนากว่าทุบทำลายธุรกิจที่ทุนน้อยกว่าให้ล้มหายตายจาก
เพื่อที่ตนจะได้ครองตลาดแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียว
นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้ฉุกคิดถึงการทำการค้าแบบ “แบ่งปัน” และ “ถ้อยทีถ้อยอาศัย”
นานแค่ไหนแล้วที่ผู้คนตัดสินและวัดคุณค่าของคน
ด้วยจำนวนเงินที่เขามีอยู่
โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรมความดีที่เขามี
นานแค่ไหนแล้วที่เราหลงลืมน้ำใจไว้ในตู้เซฟที่บ้าน
และคอยพร่ำสอนลูกหลานว่า
“คนเก่ง” คือ “คนรวย”
คนเก่งต้องเป็นคนฉลาด ฉกฉวย
เอาเปรียบ เบียดเบียน
มือยาว...สาวได้สาวเอา
คนที่แข็งแรงกว่าจะเป็นผู้ชนะเสมอ
ใครมีเท่าไหร่...เราต้องมีให้ดีกว่าเหนือกว่า
ฯลฯ
นานเท่าไหร่แล้วที่เราลืม
“น้ำใจ”
“การเอื้อเฟื้อแบ่งปัน”
“ความห่วงหาอาทร”
ไว้ให้เป็นเพียงแค่ถ้อยคำสอนตน
แต่ไม่เคยหยิบมาใช้อย่างจริงจัง
....................................
“ฉันจะเก็บบ้างนะ” ไม่ได้บอกสอนให้เราโลภ
และกอบโกยทุกสิ่งมาเป็นของเราโดยไม่คิดแบ่งปัน
หากแต่เสาะหา เพื่อจ่ายแจกแบ่งปัน
และอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน อย่างพอเพียง
.............................
นานแค่ไหนแล้วที่คนเรารู้จักแต่ “เก็บ”
แต่ไม่รู้จักที่จะ “แบ่งปัน”.
..............................
ผมไม่เคยแต่งกลอนหัวเดียวมาก่อน
อ่านจบแล้วชอบจังหวะเวลาที่อ่านมาก
ก็เลยลองแต่งเล่นๆดูบ้าง...
“ “ฉันจะเก็บบ้างนะ”...
เป็นนิทานนะจ๊ะ เล่าเรื่องการเก็บออมจ้ะ
ผ่านมุมมองของเด็กน้อยนะ เรื่องราวน่ารักเชียวล่ะ
ภาพประกอบสีสันสวยงามนะ ราคาไม่แพงด้วยล่ะ
อย่ารีรอเลยนะ ไปซื้อหามาอ่านกันเถอะจ้ะ”
กล่องความคิดเห็น
การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่