บทความทั่วไป

กะก๋าแนะนำหนังสือ : ควันไฟและสายรุ้ง

กะว่าก๋า



ควันไฟและสายรุ้ง


เขียนโดย : โดม วุฒิชัย










ผลงานเล่มล่าสุดของนักเขียนโดม วุฒิชัย
หนังสือสารคดีเข้ารอบสุดท้ายรางวัลนายอินทร์อวอร์ด 2551













หนังสือเล่มนี้โดดเด่นตั้งแต่หน้าปกซึ่งถูกออกแบบอย่างสวยงาม
แต่สิ่งที่ทำให้ผมหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน “รวดเดียวจบ”
ย่อมมิใช่ความงามของรูปเล่ม
หากแต่เป็น “เนื้อหาสาระ” ที่ซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัดและตัวอักษร


หนังสือถูกโปรยไว้ว่าเป็นหนังสือในแนว “สารคดี”
แต่ความรู้สึกของผมหลังจากได้อ่านหนังสือเล่มนี้จบลง
ผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้เป็นงานเขียนแนว “เรื่องจริง”


งานเขียนแนวสารคดีในความรู้สึกของผม
คือการให้ข้อมูลความรู้ในเรื่องราวหนึ่งๆอย่างแจ่มกระจ่าง
และให้น้ำหนักกับ “ข้อมูลการรับรู้” มากกว่า “ความรู้สึก”
แต่งานเขียนแนวเรื่องจริงทำหน้าที่มากกว่านั้น
มันเปิดเปลือย “ความรู้สึก” ของผู้เขียน
และนำ “ความรู้สึก” นี้ บอกเล่าผ่านกลวิธีในการเขียน













“เรื่องจริง” ในชีวิตของโดม วุฒิชัย
อาจเป็นแง่มุมที่บางคนต้องเก็บงำเป็น “ความลับดำมืด”
และไม่กล้าเปิดเผยให้ใครได้รับรู้

ผู้เขียนเลือกที่จะหยิบช่วงเวลาเลวร้ายของชีวิต
ช่วงที่หลงติดกับดักอยู่ในวังวนของยาเสพติด
ตั้งแต่บุหรี่ กัญชา ยาบ้า เหล้าและเบียร์
มาบอกเล่าผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายอันอยู่ในช่วงตกต่ำดำดิ่งของชีวิต

ลำพังชีวิตตัวเองคงไม่เท่าไหร่
หากแต่ความตกต่ำนี้ยังพ่วงพาชักลากครอบครัวให้ต้องตกอยู่ในสภาวะอันยากลำบาก
เหน็ดเหนื่อยและเจ็บปวดไม่แพ้กัน


นอกจากร่างกายทรุดโทรม จิตใจตกต่ำ
ยาเสพติดยังทำให้ฐานะการเงินในครอบครัวต้องยอบแยบ
และทำให้คนรอบข้างต้องเดือดร้อนไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้













อะไรที่ดึงให้คนๆหนึ่งซึ่งตกอยู่ในนรกของยาเสพติด
กลับคืนฟื้นขึ้นมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงได้

โดม วุฒิชัยใช้คำสอนธรรมะหลายๆประโยคบอกเล่าให้เราเห็น
ช่วงเวลาแห่งการตื่นรู้ทางความคิด

แน่นอน...นี่เป็นจุดพลิกผันที่อาจไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน
ที่ผลัดหลงและตกลงไปในนรกแห่งยาเสพติดอันหลอกหลอนจิตใจ

แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนเน้นย้ำก็คือ เราต้องมีความกล้าหาญที่จะปฏิเสธยาเสพติด
ถ้าเราเข้าใจชีวิต ชีวิตก็ไม่มีอะไรที่น่ากลัว
ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ขอเพียงเราเชื่อมั่นในตัวเอง




“ความจริงชีวิตก็ไม่ได้มีอะไรน่าหวาดกลัวจนเกินไปนัก
ไม่ว่าจะอยู่ จะเป็นเช่นไร ถ้าเราเข้าใจชีวิต
เราก็สามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขได้” (หน้า 103)

 



“ผมเชื่อว่าคุณค่าของชีวิตนั้น ไม่ได้อยู่ที่การมีอายุยืน
หรือจำนวนปีที่อยู่บนโลก หากขึ้นอยู่กับการได้เข้าใจชีวิตมากกว่า
แต่ถ้าอายุยืนและเข้าใจชีวิตด้วย
ก็นับว่าเป็นโชคอย่างยิ่ง” (หน้า 122)















คนที่ไม่เคยทำผิดพลาดในชีวิต
คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย


ไม่แปลกถ้าคนๆหนึ่งจะผิดพลาด หลงผิดไปกับความเห็นที่พลาดผิด
สำคัญที่เขากล้าที่จะยอมรับความจริง
กล้าที่จะยอมรับว่าตัวเองพลาด
กล้าที่จะขอโทษคนรอบข้าง
และกล้าที่จะให้อภัยตัวเอง
เพื่อให้โอกาสตัวเองได้เริ่มต้นใหม่กับเส้นทางที่ถูกต้องหรือเปล่า


กำลังใจจากครอบครัว
กำลังใจที่มอบให้ตัวเอง
ย่อมเป็นมือที่ฉุดดึงให้เรากลับมาเดินอยู่บนทางที่ถูกต้อง


หนังสือเล่มนี้เขียน “ความจริง” ของชีวิต
ให้เราได้รับรู้ว่า

“ไม่มีอะไรสายเกินกว่าจะแก้ไข”


และ โอกาสนั้นมีอยู่...
เพียงแต่เราจะมองมันเห็นหรือไม่เท่านั้นเอง





กล่องความคิดเห็น

การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่