บทความทั่วไป

:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องนางน่อยน้อย ::

กะว่าก๋า

1.ทำไมคนเราคิดถึงรักคนอื่นมากกว่าตัวเอง บางแว๊บอารมณ์


2.ทำไมคนเราคิดถึงคนเป็นคนตาย ในยามที่ร่างกายเราไม่สบาย


3.หน้าที่ ความฝัน ความหวัง สามัญสำนึก อยากเจอจุดสมดุลที่มีความสุขทำไงอะ


4.มองโลกในแง่ดี เชื่อคนง่าย ไม่ระวัง ภัยจะมาบ่อยๆ ใช่ไหม??


5.น่ารัก อารมณ์ดี เข้ากับคนง่าย แต่บางทีก็นำพาความไม่สบายใจมาได้เพราะคนเริ่มยึดติด


6.พี่ว่าคนที่ถามเนี๊ยะอารมณ์ไหนเนี๊ยะ(รู้ตัวเองแต่สนใจมุมมองคนอ๊ะ)


7 .ทำไมต้องอยู่ด้วยความหวัง (รู้แล้นแต่อยากรู้มุมมองคนอื่นอีก)
 

 



คำถามโดย : นางน่อยน้อย







********************************

 

 







1.ทำไมคนเราถึงคิดรักคนอื่นมากกว่าตัวเอง

 


มีคนเคยบอกว่าให้เอาคู่รักมาหนึ่งคู่
จากนั้นให้ทั้งสองคนยื่นมือออกมาด้านหน้า
แล้วเราก็เอาถ่านไฟร้อนๆวางลงไป
ดูสิ....ว่าใครจะปัดของใครก่อน

ถ้าเป็นหนูนีลจะปัดของใครก่อน....


ถ้าเป็นพี่ก๋า....พี่ก๋าก็จะสะบัดถ่านในมือของตัวเองออกไปก่อนครับ
เพราะนั่นเป็นสัญชาติญาณของความเป็นมนุษย์
ต่อให้คนรักของเรานั่งอยู่ข้างๆ เราต้องปัดถ่านในมือเราก่อน
ถึงจะช่วยเหลืออีกคนได้


แต่ทำไมเราจึงได้ยินเรื่องราวแบบแม่ยอมเสี่ยงตาย
เพื่อบุกเข้าไปในบ้านที่ไฟลุกโชนเพื่อเข้าไปช่วยลูกที่ติดอยู่ในบ้าน
โดยไม่กลัวตาย

หรือแม้แต่เรื่องราวแบบลูกยอดตัดไตหนึ่งข้างเพื่อบริจาคให้พ่อตัวเอง


พี่ก๋าไม่รู้จริงๆว่าเราเรียกพฤติกรรมแบบนี้ว่า “ความรัก” ได้หรือไม่
บางทีสิ่งนี้อาจยิ่งใหญ่กว่าความรักไม่รู้กี่พันเท่า
พี่ก๋าเรียกว่ามันว่า “การให้ด้วยใจอันปรารถนาดี” ครับ


บางคนบอกว่าเขารักเรามากกว่ารักตัวเอง
ซึ่งพี่ก๋าไม่ค่อยเชื่อครับ.....

เพราะ “ความรัก” แบบนี้ส่วนใหญ่มักมีเงื่อนไข
ฉันรักเธอมาก เพราะฉะนั้นเธอต้องรักฉันให้มากกว่า

ถ้ามีใครมาบอกหนูนีลว่าเค้ารักหนูนีลมากกว่าตัวเอง
ลองให้เขาเอาถ่านวางบนมือของเขาดู
ถ้าเขาวางจริง --- เลิกคบเลยนะครับ
ผู้ชายคนนี้ไม่มีสติและไม่มีสมองครับ 55555









2.ทำไมคนเราคิดถึงคนเป็นคนตาย ในยามที่ร่างกายเราไม่สบาย

 


ตอนที่เราไม่สบาย
จิตของเราจะไปจดจ่อที่ความเจ็บป่วยทางกาย
ทำให้เรามีสมาธิเหลือพอที่จะคิดถึงคนที่เราผูกพันด้วย

สังเกตมั้ยครับว่าเวลาเราป่วย
เราจะคิดถึงคนที่เป็น “กำลังใจ” ให้เรา
ไม่ว่าเค้าจะเป็นคนในครอบครัว หรือเป็นคนที่เรารัก

แล้วเมื่อเราป่วย กิจกรรมที่เราสามารถทำได้ก็ลดลง
มีเวลาให้สามารถ “นิ่ง” และฟังเสียงความคิดของตัวเองได้








3.หน้าที่ ความฝัน ความหวัง สามัญสำนึก
อยากเจอจุดสมดุลที่มีความสุขทำไงอะ

 



ถ้าเอาสี่คำนี้มาจัดหมวดหมู่
หนูนีลจะเห็นว่ามี 2 หมวด

1. หมวดแรกคือ หมวดความเป็นจริง

1.1 หน้าที่
1.2 สามัญสำนึก

และอยู่ใน

2. หมวดของความเพ้อฝัน

2.1 ความฝัน
2.2 ความหวัง


สมดุลของความสุขในชีวิตคนเรา
คือต้องทำให้ตัวเองรู้ให้ได้ว่า ความจริงที่เราต้องเผชิญคืออะไร
ยอมรับความจริงนั้น แล้วก็ทำหน้าที่ ณ ขณะนั้นให้ดีที่สุด
อยู่กับปัจจุบัน และความเป็นจริง

ตอนนี้เรามีหน้าที่เรียน ก็เรียนอย่างตั้งใจ
สามัญสำนึกของการเป็นนักเรียนที่ดีคืออะไร ?
คือ ขยัน หมั่นศึกษาหาความรู้ หมั่นทบทวนตำรา


ส่วนหมวด 2. เราค่อยนำมาใช้เพิ่มความสดใสให้กับความตัวเอง
เช่น ฝันว่าเรียนจบแล้วจะได้งานที่ดี มีเงินใช้ หาแฟนหล่อ
ฯลฯ

จากนั้นค่อยๆทำความฝันให้เป็นความหวัง
แล้วทำความหวัง ให้กลายเป็นความจริงในที่สุด


พี่ก๋าตอบง่าย
แต่ความจริงในชีวิตมันทำโคตรยาก
แม้กระทั่งตัวพี่เอง....


บ่อยครั้งเราฝัน เราหวังว่าเราอยากทำนู่นนี่ที่เคยคิด
แต่ชีวิตจริงมันไม่ได้ถูกขีดทางให้เราแบบที่ใจเราคิด
เพราะฉะนั้นทุกวันนี้พี่ก๋าถึงบอกว่า
“ความสุข” มันไม่ได้เกิดจากสิ่งที่เรามีอยู่หรือเสาะแสวงหา
แต่ “ความสุข” มันเกิดขึ้น เมื่อใจเรามีความสุข
ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีสิ่งใดที่เราต้องการก็ตาม

หวังว่าหนูนีลจะเจอมันโดยเร็วนะครับ
สำหรับ “สมดุลแห่งความสุขในชีวิต”









4.มองโลกในแง่ดี เชื่อคนง่าย ไม่ระวัง ภัยจะมาบ่อยๆ ใช่ไหม??

 


ใช่ครับ.....
มองโลกในแง่ดี
กับ มองโลกตามความเป็นจริง
แตกต่างกันสุดขั้ว

บางคนที่มองโลกในแง่ร้าย
ก็ใช่จะเป็นด้านแย่อย่างเดียวนะครับ
ในดีมีโทษ ในโทษมีดี

บางคนกล้าแต่บ้าบิ่น
คนกล้า ไม่ได้หมายความว่าไม่กลัวตาย บ้าบิ่น มุทะลุ
แต่คนกล้าที่แท้จริง คือ คนที่ยังมีความกลัวอยู่
ความกลัวทำให้ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต
แต่คนกล้า สามารถอยู่เหนือความกลัวได้
ด้วยการคิดอย่างรอบคอบและมีสติตลอดเวลา


พี่ก๋าเป็นคนตั้งกำแพงสูงมาก
แต่ไม่ปฏิเสธการรู้จักคนใหม่ๆ มิตรภาพใหม่ๆ
ไม่ใช่ทุกคนที่จะมาสนิทกับพี่ง่ายๆ
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้ามานั่งในห้องรับแขกของพี่ง่ายๆ

ระวังการมองโลกในแง่ดีของเรา จะทำให้อีกฝ่ายมองเห็นเป็นจุดอ่อน
แล้วก็โจมตีทำร้ายเราที่ความรู้สึกนี้

ใครบางคนเคยบอกว่า
“มิตรภาพ” ก็เหมือนการถือไข่ไก่ไว้ในมือ
แล้วเดินบนเส้นลวด

เราคบใคร ต้องคบด้วยความรู้สึกแบบนี้ครับ
ถือด้วยความนิ่มนวล ทะนุถนอม
แต่ก็รักษาระยะห่าง และ ระมัดระวังความรู้สึกตลอดเวลา








5.น่ารัก อารมณ์ดี เข้ากับคนง่าย
แต่บางทีก็นำพาความไม่สบายใจมาได้เพราะคนเริ่มยึดติด




มีสองอย่างที่ทำให้เราทุกข์
 


1. เราทุกข์เพราะคนอื่นเชื่อว่าเราเป็นคนไม่ดี
2. เราทุกข์เพราะเราเป็นคนไม่ดีจริงๆ



ตลกที่เล่นขำที่สุดในโลก
ยังต้องมีวันที่เขาร้องไห้เศร้าโศก

เช่นกันครับ ภาพที่เราสร้างขึ้น
แน่นอน...ย่อมไม่ใช่ตัวตนทั้งหมดของเรา

ไม่มีใครขำ น่ารัก อารมณ์ดี แจ่มใส ร่าเริงได้ตลอดเวลา

เรามีมุมที่เป็นมนุษย์ซึ่งโกรธเป็น เกลียดเป็น โมโหเป็น
หยาบคายเป็น

เพียงแต่พี่ก๋าคิดว่า ถ้าเขารักเราจริง
เขาต้องรับได้ในอารมณ์ทั้งสองฝั่งของเรา
คนที่รักเราอย่างแท้จริง....จะรักเราโดยไม่มีเงื่อนไขครับ
แม้ในวันที่เรางี่เง่าสุดกู่ หรือทำตัวน่าโมโหสุดๆ
เค้าจะ “ให้อภัย” เราได้
ในข้อแม้ว่า....ยังไงก็อย่าให้มันบ่อยเกินไปก็แล้วกัน อิอิอิ










6.พี่ว่าคนที่ถามเนี๊ยะอารมณ์ไหนเนี๊ยะ
(รู้ตัวเองแต่สนใจมุมมองคนอ๊ะ)

 



ให้พี่ก๋าเดาดูเร๊อะ 55555
ไม่เดาว่า “น่ารัก” อย่างที่หนูจ่อยคิดหรอก 555555


พี่ก๋าคิดว่าหนูนีลเป็นผู้ใหญ่หัวใจเด็ก
ซึ่งกำลังอยู่ในวัยแห่งการเรียนรู้และเปิดรับเรื่องราวต่างๆ
ที่ผ่านเข้ามาชีวิต

รักษาความเป็นเด็กในตัวเราให้ดีครับ
(หน้าเด็กก็ควรรักษาด้วย 555)
แล้วก็เติบโต หนักแน่น มีวุฒิภาวะทางอารมณ์เหมือนผู้ใหญ่
(อย่าเลียนแบบนักการเมืองเด็ดขาด 5555 นั่นเป็นตัวอย่างที่เลว)


หนูนีลควรจะเจอคนเยอะๆ หลายๆรูปแบบ
เพื่อเรียนรู้ความแตกต่างของคนให้มากๆ
เราจะได้มีภูมิต้านทานในการรับมือกับอารมณ์ของมนุษย์
ซึ่งพี่ก๋าคิดว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆสำหรับการใช้ชีวิต

ในห้องเรารบกับตำรา

แต่ชีวิตจริง เราต้องอยู่กับอารมณ์ของคนครับ
ถ้าเรารับมือกับ “อารมณ์” ของคนได้
เราจะมีความสุขในการใช้ชีวิตในระดับนึง

“คน” คือ ตำราที่เรียนรู้ได้อย่างไม่มีวันจบสิ้น










7 .ทำไมต้องอยู่ด้วยความหวัง (รู้แล้นแต่อยากรู้มุมมองคนอื่นอีก)



พี่ก๋าว่า “ความหวัง” ทำให้เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไรบางอย่าง
และบางอย่างที่ว่านั้น…..ทำให้เรามีความสุข
ขณะที่ได้ทำสิ่งนี้


ไม่รู้หนูนีลเคยได้ยินเรื่องราวของค่ายเอาท์วิชต์ในเยอรมัน
ช่วงสงครามโลกมั้ยครับ
ค่ายนี้เป็นค่ายที่คนยิวถูกจับกุมมา (พี่ใช้คำว่าต้อนมานะครับ)
นักโทษเหล่านี้ถูกนำมาใช้แรงงาน แล้วก็ฆ่า ฆ่า ฆ่า

คนส่วนใหญ่ตายด้วยการถูกรมแก๊สพิษ
ตายเพราะขาดสารอาหาร
แต่สาเหตุที่ทำให้คนตายมากที่สุด ก็คือ

“ตายเพราะขาดความหวังในชีวิต”

ตายเพราะคิดว่าตัวเองไม่มีทางรอด


แต่มีนายแพทย์ชาวยิวท่านหนึ่งอยู่ในค่ายนั้น
ซึ่งรอดชีวิตมาได้ ท่านบอกว่า “ต้นไม้ต้นเล็กๆ” ที่ข้างห้องขัง
เป็นความหวังของท่าน
ท่านมองดูมันเติบโตทุกวัน และจินตนาการว่าตัวเองคือต้นไม้ต้นนี้
ที่ต้องเติบโต และไม่ยอมแพ้ต่อสภาพอากาศอันเลวร้ายที่นี่

ขอเพียงใจไม่ยอมแพ้ และเชื่อมั่นว่าจะต้องรอดชีวิตออกไปให้ได้

“ความหวัง” “ความเชื่อ” “ความศรัทธา”
เหล่านี้ คือ เข็มทิศที่นำชีวิตเราให้มุ่งไปสู่สิ่งที่เราคิด



หนูนีลหวังอะไรไว้…..
อย่าให้ใครมาทำลายความหวังของเราด้วยคำว่า

“มันเป็นไปไม่ได้หรอก”

รักษามันไว้ให้ดี และพยายามเดินตามความหวังของตัวเองให้ได้


ยังไงพี่ก๋าเอาใจช่วย
และขอให้ความหวังของหนูนีลเป็นจริงนะครับ

กล่องความคิดเห็น

การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่