บทความทั่วไป

:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องดี ::

กะว่าก๋า


พึ่ก๋าขา...ดีดีหวงไหว้
ดีดีเป็นโรคจิตหรือเปล่า
แล้วดีดีจะแก้อาการอย่างไรคะ????


เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...
ดีดีเป็นคนไหว้สวย เวลาจะไหว้คน จะตั้งใจไหว้
ค่อยๆยกมือขึ้นพนมขึ้นที่อก แล้วก้มลงอย่างนอบน้อม
จะไม่ยกมือขึ้นมาแปะ หรือไว้กราดเป็นนักมวย
เหตุผลที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าดีดีถูกอบรมมาดี อิอิ

การอบรมที่ถูกสอนมาก็คือ...
ตั้งแต่ยังเป็นสาววัยละอ่อน
ท่ามกลางผู้ใหญ่มากมาย
ดีดีเจอปุ๊บก็ยกมือไหว้กราดอย่างรวดเร็ว

ทันใดก็มีเสียงพี่สาวดังมาเลย
ดีดีไหว้ใหม่เดี๋ยวนี้...อย่าสักแต่ยกมือขึ้นมาแปะ
ไหว้ไปทีละคน มองหน้าคนที่ไหว้ด้วย

และแล้วดีดีก็เริ่มไหว้ใหม่
อับอาย...แต่ต้องเริ่มใหม่

นับแต่นั้นมา
ดีดีก็จะไหว้สวย เวลาไหว้คนก็จะมองหน้า
ไม่สักแต่ยกมือขึ้นมาแปะ เพราะเดี๋ยวจะโดนทำใหม่

จากดีดี...ก็ไปกลุ่มเพื่อน เลยมาถึงพวกน้องๆก็ไม่เว้น
โดนไหว้ใหม่กันมาหมดทุกคน
ดังนั้นทุกคนจะไหว้สวยกันหมด

พอโดนฝึกอย่างนี้มานานๆเข้า
ก็เริ่มมีอาการหวงไหว้ค่ะ
(คนอื่นไม่เป็น ดีดีเป็นอยู่คนเดียว)

คือถ้าเจอคนที่เราไม่ชอบ ก็จะไม่อยากไหว้
มีความรู้สึกว่าอยากเลี่ยง
ถ้าเจอกันแบบเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องไหว้
แล้วพอไหว้แล้วก็รู้สึกไม่ดี
ว่าทำไมเราต้องไหว้ ทั้งๆที่เราไม่อยากไหว้
ก็รู้ว่าเป็นมารยาททางสังคม
แต่ทำไมเราต้องมีมารยาท
ทำไมเราต้องทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ

แล้วก็มีคนว่า...
มันจะอะไรนักหนาแค่ยกมือไหว้ทักทายกัน

พี่ก๋าเข้าใจความรู้สึกของดีดีไหมค่ะว่า...
มันไม่ใช่แค่การไหว้
เหมือนเราดื่มกาแฟ...มันไม่ใช่แค่กาแฟ
การเดินทาง...มันไม่ใช่แค่การเดินทาง
การไหว้ก็เหมือนกัน...มันไม่ใช่แค่การไหว้

ดีดีเคยไปยืนมองดูพระที่โบสถ์
ไปยืนมองเฉยเฉย...ไม่ไหว้
ก็ไม่เห็นจะเป็นไร...พระไม่ว่า
แต่กับคนทำไมเรื่องเยอะจัง

มันมีอาการฝังจิตว่า...เราไม่อยากไหว้คนที่เราไม่อยากไหว้
ดังนั้น...
ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าเราจะไปเจอคนคนนี้
ก็จะเลี่ยงโดยไม่ไป...ไม่อยากไหว้
ถ้าหลบได้ ดีดีหลบ
แต่ถ้าหลบไม่ได้ ดีดีก็จะไหว้สวยๆเป็นปกติ
แต่มันทรมานใจมากค่ะ
เพราะฉะนั้น โอกาสต่อไปก็จะหลบค่ะ



พึ่ก๋าขา...ดีดีเป็นโรคจิตหรือเปล่า
แล้วดีดีจะแก้อาการอย่างไรคะ????





............................................






คำถามนี้ เป็นคำถามเหมือนจะบ้าๆขำๆ
แต่ดี.จริงจังนะพี่ อิอิ









คำถามโดย : ดีดี มัชชาร













************************




คำถามน้องดี
ทำให้พี่ก๋านึกถึงเด็กหนุ่มคนนึงอีกแล้ว 555
อย่าเพิ่งเดาว่าเป็นพี่ก๋านะครับ 5555













ครั้งหนึ่งเด็กหนุ่มคนนี้ทำงานในร้าน
มีอยู่วันหนึ่งเพื่อนของพ่อมาที่ร้าน
เดินหน้ามุ่ยเข้ามาด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน
เด็กหนุ่มยกมือไหว้แล้วถามเพื่อนพ่ออย่างสุภาพว่า
“มีธุระอะไรเหรอครับ ?”

“กูจะหาพ่อมึง พ่อมึงอยู่ไหน ?” เขาตอบ
โดยอาวุโสแล้ว แม้จะเทียบอายุกันไม่ได้เลย
เพราะเพื่อนพ่ออายุ 50 กว่า และเด็กหนุ่มอายุเพิ่งยี่สิบต้นๆ
เด็กหนุ่มตอบอย่างมีมารยาทว่า พ่อกำลังหลับอยู่ ไม่ค่อยสบาย
รอให้พ่อตื่นก่อนได้ไหม เพราะพ่อสั่งไว้ว่าอย่าให้ใครมาปลุก

“มีธุระอะไรสำคัญหรือเปล่าครับ ?” เด็กหนุ่มถาม
“ไม่ใช่เรื่องของมึง มึงไปปลุกพ่อมึงเดี๋ยวนี้เลย” เพื่อนพ่อเริ่มหน้าแดงและเสียงดัง

เด็กหนุ่มยืนยันว่า ปลุกไม่ได้ เพราะพ่อสั่งไว้
แล้วเขาพยายามถามแล้วถามอีก
ว่าธุระสำคัญคืออะไร ?

“มึงไม่ปลุก งั้นเดี๋ยวกูเข้าไปเรียกพ่อมึงเอง”

เด็กหนุ่มอธิบายอย่างดีที่สุดแล้ว แต่เพื่อนพ่อไม่ฟัง
พยายามดึงดันจะเดินเข้าไปในบ้านให้ได้

“ถ้ามึงเดินเข้าไปปลุกพ่อกู กูต่อยมึงแน่”

นี่คือการขึ้นเสียงเพียงครั้งเดียวของเด็กหนุ่มผู้มีบุคลิกเรียบร้อยมาโดยตลอด

ได้ผล....เพื่อนพ่อชะงัก เด็กหนุ่มจ้องมองด้วยแววตาที่เพื่อนพ่อไม่เคยเห็น

เขาถอยกลับไปอย่างเงียบๆ....

และเด็กหนุ่มตัดสินใจได้ในวินาทีนั้นว่า
เขาจะไม่ยกมือไหว้เพื่อนพ่อคนนี้อีกเลย.......















เด็กหนุ่มเล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟัง หลังจากพ่อตื่นนอนออกมา
พอเล่าจบ....เพื่อนพ่อโทรมาต่อว่าเด็กหนุ่มกับพ่อของเขา

“มันก้าวร้าวใส่กู” เขาฟ้องมาตามสาย.....

“ผมไม่เคยก้าวร้าวกับใคร ถ้ามันไม่ล้ำเส้น” เด็กหนุ่มอธิบายให้พ่อของเขาฟัง
ดูเหมือนพ่อจะเข้าใจลูกของตัวเอง ว่าไม่ใช่เด็กไม่มีมารยาท
หรือก้าวร้าวใส่ใครให้เห็น

และธุระสำคัญของเพื่อนพ่อ ก็คือ เขามาเพื่อยืมเงินพ่อ....

“ถ้ามันมาที่ร้านอย่าไปยุ่งกับมันก็แล้วกัน” พ่อของเด็กหนุ่มพูดเพียงเท่านี้













เพื่อนพ่อคนนี้แวะเวียนมาตลอด
ทุกครั้งที่เจอ เด็กหนุ่มพยายามเลี่ยง หลบ ไม่สบตา
ดูเหมือนเพื่อนพ่อจะรู้ตัวดี เขาเองก็ไม่กล้าสู้หน้าเด็กหนุ่มเช่นกัน

ท่ามกลางภาวะอึดอัด……
เป็นอยู่อย่างนี้นานหลายเดือน....

วันหนึ่งเด็กหนุ่มตัดสินใจยกมือไหว้เพื่อนพ่อคนนี้
เขาบอกตัวเองว่า....
ใช่....ฉันไม่ชอบนิสัยของเขา ไม่ชอบขี้หน้าเขา
แต่ที่ฉันไหว้ เพราะฉันไหว้ด้วยมรรยาทที่เด็กพึงมีต่อผู้ใหญ่
ฉันไหว้ความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเขา
ฉันไหว้เพราะในตัวฉันมีความนอบน้อม รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่
ฉันไหว้เพราะฉันเคารพในความเป็นมนุษย์เหมือนกันทั้งเราและเขา

ฉันไม่ได้ไหว้ความเลวในตัวเขา
ฉันไม่ได้ไหว้ความคดโกง ความเอารัดเอาเปรียบเพื่อนฝูงในตัวเขา


นับตั้งแต่นั้นเมื่อเพื่อนพ่อหรือคนที่เขาไม่ชอบหน้ามาที่ร้าน
เด็กหนุ่มจะยกมือไหว้ตามมารยาททุกครั้ง

ดูเหมือนความเกลียดชังจะลดทอนลงไป


หลายปีผ่านไป เด็กหนุ่มพูดคุยกับเพื่อนของพ่อคนนี้อย่างปกติ
ด้วยมารยาทอันดีแบบเด็กซึ่งควรแสดงความเคารพต่อผู้ใหญ่















น้องดีครับ


ทุกครั้งที่ยกมือไหว้ใคร
ขอให้น้องดีนึกถึง “ความเท่าเทียมกันของสรรพชีวิต”
ไหว้ความเป็น “ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน” ในตัวเขา
อย่าไปไหว้ “ความเลว ความเกลียดชัง ความชั่ว” ในตัวเขา
ไหว้เพราะเขาเป็นเพื่อนผู้ร่วม เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนเรา
ไหว้เพราะเขามีความเป็นผู้อาวุโส....


ไหว้ไปเถอะครับ
ไหว้แล้วเตือนสติตัวเราไปด้วย
ว่าอย่าลืมทำตัวเองให้น่าเคารพ
เพราะท้ายที่สุดแล้ว.....

คนที่เราควรยกมือไหว้ให้ได้สนิทใจมากที่สุด
ก็ควรจะเป็นตัวเราเอง

กล่องความคิดเห็น

การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่