บทความทั่วไป

:: ก๋าราณีตอบคำถามพี่ amatavaja ::

กะว่าก๋า

คุณแม่พี่เคยบอกว่า คำพูดของพ่อแม่นี้ศักดิ์สิทธิ์
ให้พูดกับลูกแต่คำดีดี ห้ามแช่งลูก
ห้ามว่าลูกเป็นคนไม่ดี

มีอะไรค่อยพูด ค่อยสอน และคอยอธิบาย
ลูกจะเป็นตามปากพ่อแม่

พี่ว่ามันก็เป็นกุศโลบาย
ที่น่านำไปใช้ และพี่เองก็ใช้มาตลอดเหมือนกัน

ก็เลยอยากมีคำถามให้คุณก๋าว่า



"วาจาพ่อแม่นั้นศักดิ์สิทธิ์"



คุณก๋าว่าจริงหรือไม่



คำถามโดย : amatavaja
















สวัสดีครับพี่ amatavaja




ร้อยทั้งร้อย
ลูกเกือบทุกคนบนโลกนี้ต้องเคยผ่านช่วงความคิดแบบ

“พ่อแม่ไม่เคยเข้าใจฉันเลย” แน่นอน

ผมก็เป็นครับ....เป็นมากด้วย



การทำงานกับครอบครับลูกคนจีน
ไม่ง่ายนะครับ มีช่องว่างที่ห่างมาก
ช่องว่างที่เกิดจากความเข้มงวด อำนาจ และความคาดหวัง

ผมเองกดดันตัวเองแบบไม่รู้ตัวมานาน
น้อยเนื้อต่ำใจ ไม่กล้าที่จะเป็นคนเก่ง
ไม่ชอบเปิดเผยความรู้สึก

เหล่านี้....ล้วนแต่เป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นในเยาว์วัยทั้งสิ้น
แม้ช่วงแรกของการทำงานกับที่บ้านก็ยังเป็น
















"วาจาพ่อแม่นั้นศักดิ์สิทธิ์"


ผมยังไม่ตอบว่าจริงหรือไม่จริงนะครับพี่
แต่อยากให้คนเป็นลูกได้รับรู้ความรู้สึกนี้
ถามว่าทำไมลูกถึงดื้อ รั้น และไม่เชื่อฟังพ่อแม่

มันเป็นธรรมชาติของวัยเราที่อยากเอาชนะ อยากขบถ
ผมเชื่อว่าเด็กเป็นทุกคน มากหรือน้อย

หลายคนรู้เร็ว --- รู้ในความรักที่พ่อแม่มีให้
ก็กลับตัวปรับใจได้เร็ว

และหลายคนไม่มีโอกาสเช่นนั้น......


เพื่อนสนิทของผมเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน
พ่อแม่แก่มากจนไม่อาจมีลูกได้อีกแล้ว
วันที่เขาออกไปดื่มเหล้ากับเพื่อน
แล้วเกิดอุบัติเหตุ....รถยนตร์ชนกับต้นยางข้างทาง
ไป 8 คน ตายคาที่ 7 ศพ
รอดมาได้หนึ่งเดียว.....


เพื่อนผมคือหนึ่งใน 7 คนที่เสียชีวิต


วันที่ผมไปนั่งในงานศพเพื่อน
ผมอยากให้คุณเห็นแววตาของพ่อแม่
ถ้าวันนั้นน้ำตาไหลเป็นสายเลือดได้...มันคงไหลไม่สุดสิ้น


พ่อแม่เพื่อนแช่งด่าลูกมั้ย....ผมว่าไม่
แต่วิธีคิดกับวิธีใช้ชีวิตของเพื่อนผมเองต่างหาก
ที่ทำร้ายทำลายชีวิตตัวเอง


พ่อแม่มีแต่นั่งภาวนาที่บ้านขอให้ลูกฉันปลอดภัย
ขอให้ลูกฉันเติบโต มีหน้าที่การงานที่ดี
มีครอบครัวที่อบอุ่น มีสุขภาพที่แข็งแรง


น่าแปลก...ที่ลูกๆไม่ค่อยรู้ถึงความปรารถนาดีนี้

ใช่หรือไม่ว่า...บ่อยครั้งความหวังดี

ถูกแปรเปลี่ยนมาทางแววตาดุดัน น้ำเสียงเข้ม และกฎกติกาหยุมหยิมมากมายในบ้าน

และด้วยความรั้น ดื้อ ลูกๆจึงพยายามแหกกฏเกณฑ์นี้อยู่ตลอดเวลา


















กว่าผมจะเข้าใจว่าพ่อกับแม่ของผม
รักผมมากมายขนาดไหน
ยังต้องใช้เวลาปรับเปลี่ยนความรู้สึกมากมาย

ท่ามกลางเสียงตำหนิและเสียงด่า
กว่าผมจะมองเห็นว่ามันคือเสียงสวรรค์ที่ทำให้ผมฉลาดและทันคนในเหลี่ยมคูการค้า
ก็เกือบทำให้ผมต้องน้อยใจพ่อตัวเองไปตลอดชีวิต

มอง แต่ ไม่เห็น
ได้ยิน แต่ไม่รู้สึก

ผมย้ำเสมอกับน้องๆที่ปรึกษาเรื่องของความไม่เข้าใจในครอบครัว
ผมถึงถามกลับไปเสมอว่า

ในขณะที่เราเศร้าเพราะคิดว่าไม่มีใครเข้าใจเรา
เรา --- ได้เข้าใจคนเหล่านั้นบ้างหรือเปล่า ?


เราได้เข้าใจความหวังดีของพ่อ
เข้าใจความปรารถนาดีของแม่บ้างไหม


มองผ่านความรู้สึกด้านลบ
คุณอาจได้เห็นความรู้สึกอันเป็นที่สุดของพ่อแม่อยู่ตรงนั้น













ทุกตัวอักษรวันนี้ผมไม่ได้เขียนเพื่อคนที่เป็นพ่อแม่ได้อ่าน
แต่อยากให้คนที่เป็นลูกทุกคนได้อ่าน
ไม่ว่าคุณจะรักและเคารพท่าน
ไม่ว่าคุณจะไม่เข้าใจและทะเลาะเบาะแว้งกับพ่อแม่


ขอให้คิด คิด และใคร่ครวญให้ดี

คนที่เสียใจที่สุดในวันที่คุณตาย
ไม่ใช่ใคร....

แต่คือ พ่อแม่ของคุณเอง

กล่องความคิดเห็น

การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่