:: ก๋าราณีตอบคำถามพี่จิ๊ว ::
เหงา กับ เศร้า ต่างกันมากมั้ย
ชาย หรือ หญิง....ใครมีโอกาสได้ลิ้มลองมากกว่ากัน ?
คำถามโดย : ซอมพอแสด
สวัสดีครับพี่ซอมพอแสด
วันนี้ผมตอบคำถามของพี่เรื่อง
ชาย หรือ หญิง....ใครมีโอกาสได้ลิ้มลองความเศร้าและความเหงามากกว่ากัน ?
ครั้งหนึ่ง....บนเทือกเขาสูงแห่งดินแดนตงง้วน
จอมยุทธ์หนุ่มรูปงามผู้ซึ่งได้ฝึกฝนวิชาการรบจนแตกฉาน
เตรียมล่ำลาอาจารย์เฒ่าผู้เป็นครูถ่ายทอดวรยุทธ์
“อาจารย์ ... บัดนี้ข้าคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ข้าจำต้องลงจากเขาเสียที” จอมยุทธ์หนุ่มกล่าว
“ดี...นับว่าเป็นเรื่องดี” อาจารย์พูดพลางลูบคลำเคราสีขาวอย่างเบามือ
“อาจารย์ยังมีคำสอนใดสั่งเสียข้าเป็นครั้งสุดท้ายอีกหรือไม่ขอรับ ?” จอมยุทธ์หนุ่มค้อมหัวอย่างนอบน้อม
อาจารย์พยักหน้าอย่างนุ่มนวลและกล่าวว่า
“สิ่งใดที่จะทำร้ายเจ้าได้ในยุทธภพนี้หามีไม่....
ไม่ว่าศาตราใด ไม่ว่าวรยุทธ์ลึกล้ำเพียงใด
ย่อมมิอาจทำร้ายเจ้าได้.....
เห็นจะมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะทำร้ายเจ้าได้”
จอมยุทธ์หนุ่มชะงักงัน...หลายสิบปีมานี้เขาสู้ซุ่มฝึกฝนวรยุทธ์อย่างหนักหน่วง
หาได้มีสิ่งใดที่ทำให้เขากริ่งเกรงได้ไม่
“สิ่งนั้นคืออะไรหรือขอรับอาจารย์”
“สิ่งนั้นคือ ความเศร้าในใจของเจ้าเอง” อาจารย์กล่าว...
.........................................
สามยามของคืนนั้น
จอมยุทธ์หนุ่มเดินทางมาถึงยังตัวเมือง
แสงสีตระการตาในเมือง เสียงยั่วเย้าหยอกกระซิกของหญิงสาวเชื้อเชิญ
ผู้คนมากหน้าหลายตาคับคั่ง
หันมองไปทางใดล้วนมีแต่ความรื่นรมย์....
“นี่คือสิ่งที่ข้าต้องการครอบครองให้ได้ ข้าจะครอบครองใต้หล้า ฮ่าฮ่าฮ่า..”
จอมยุทธ์หนุ่มพูดกับตัวเองอย่างลำพองใจ
................................................
สิบปีผ่านไปไวเหมือนโกหก
จากจอมยุทธ์หนุ่ม
เขาได้กลายเป็นองค์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งตงง้วน
ใต้หล้ามิมีใครไม่ยอมสยบ
หากแต่สภาพของเขาตอนนี้เล่า กลับคล้ายชายชราผู้แก่หง่อม
เปลี่ยวเหงา....นั่นคือ ความรู้สึกของเขา
หลังจากเป็นใหญ่ เขากลับต้องระแวดระวังจากการถูกปองร้าย
ลูกเมียมากมายคล้ายคอยหวังแย่งชิงบัลลังค์ของเขา
ประชาชนแซ่ซ้องสรรเสริญ แต่หาได้ทำให้ใจของเขาสงบรำงับไม่
เขาถูกแวดล้อมไปด้วยขุนนางกังฉิน ผู้เฝ้าคอยประจบประแจง
มิให้เขาได้รับรู้ความเป็นไปของโลกหล้า
วันๆกรอกหูสรรเสริญเยินยอเขามิได้หยุดหย่อน.....
“ข้ามีทุกอย่าง...แต่คล้ายว่าไม่มี” องค์ราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่รำพึงรำพัน
“ครั้งข้าอยู่ที่เทือกเขากับอาจารย์นั้น วันๆผ่านไปอย่างเปี่ยมสุข
ตอนนี้ข้ากลับถูกความสุขที่เคยวาดหวังร้อยรัด น่าเศร้า....
ช่างน่าเศร้าเสียนี่กระไร”
“อาจารย์ช่างพูดถูกต้อง....ในที่สุดข้าก็พ่ายให้กับ “ความเศร้าในใจของตนเอง”
และแล้วองค์จักรพรรดิก็พิราบรำพันอย่างสุดกลั้น.....
พี่ซอมพอแสดครับ
ไม่ว่าจะเป็น “ความเหงา” หรือ “ความเศร้า”
ล้วนแล้วแต่ทำร้ายทำลายเราได้ไม่แตกต่าง
ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย
ขอเพียงเราเปิดโอกาสให้มันเข้าเกาะกุมจิตใจเพียงเล็กน้อย
เราอาจสลัดมันออกไปไม่ได้
การถามว่าใครเศร้ากว่ากัน
อาจเหมือนการถามว่าเสียงกระทืบเท้าจากเท้าซ้ายหรือเท้าขวา
ข้างไหนที่ดังกว่ากัน ?
มีเพียงการเดินไปข้างหน้าครับ ที่จะสลัดหลุดจากความเจ็บปวดในใจได้
การเลือกนั่งเฉยๆ เป็นเพียงการรอให้ความเศร้าความเหงาทำร้ายเราอีกครั้งยามเผลอเท่านั้น
และสำคัญที่สุด การขจัดความเศร้าออกไปจากใจได้
คงต้องด้วยการเดินไปข้างหน้าอย่างมีสติและรู้เท่าทันจิตใจของตัวเองเท่านั้นเอง
กล่องความคิดเห็น
การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่