:: DEAD POETS SOCIETY ::
DEAD POETS SOCIETY
- 1 –
หนังพูดถึงนักเรียนแห่งโรงเรียนเวลตัน
โรงเรียนผลิตเด็กเก่งเพื่อป้อนเข้าสู่มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศ
กับจอห์น คีตติ้ง อดีตศิษย์เก่าดีเด่นของโรงเรียนแห่งนี้
ที่กลับมาอีกครั้งในฐานะครูผู้สอน
หนังพูดถึงการขบถต่อรูปแบบการศึกษาอันคร่ำครึ
กฎระเบียบ และความรู้สึกของนักเรียนที่ถูกผู้ปกครองตั้งความหวัง
ว่าลูกของตนจะต้องประสบความสำเร็จ
ทั้งในการเรียนที่นี่และการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไป
เสน่ห์ของครูคีตติ้ง คือ การสอนบทกวีในรูปแบบที่แปลก
แตกต่างและไม่ให้นักเรียนยึดติดในรูปแบบอันตายตัว
เขาทำให้นักเรียนซึมซับไปกับความงามของบทกวีที่ตนเองคิดขึ้น
โดยไม่นำพากับบทกวีคลาสสิกที่เปรียบเสมือนความรู้ที่ได้ตายซากไปแล้ว
และการสอนของเขานี่เอง
ที่จุดประกายทำให้นักเรียนกลุ่มหนึ่ง
ถึงกับตั้งชมรมกวีไร้ชีพขึ้นมา
เพื่อดำเนินรอยตามสิ่งที่ครูคีตติ้งได้เคยทำไว้เมื่อวัยหนุ่ม
คือทุกคืนกลุ่มกวีไร้ชีพจะไปรวมตัวกันที่ถ้ำหลังโรงเรียน
เพื่อนำบทกวีที่ตนเองประทับใจมาอ่านให้กันและกันฟัง.....
แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น...
นอกจากจะทำให้นักเรียนกลุ่มนี้เกิดปัญหาในเรื่องการทำผิด
กฎระเบียบของโรงเรียน
ยังทำให้เด็กคนหนึ่งที่ชื่อนีล แพรี่ถึงกับโกหกทั้งพ่อแม่ ครู
เพื่อแอบไปแสดงละครเวทีอย่างที่ตนเองต้องการ
โดยพ่อผู้เคร่งครัดไม่เห็นด้วยเลยกับความคิดของนีล
ในความคาดหวังของพ่อ นีลคือตัวแทนความฝันในวัยเยาว์ของตน
ที่ไม่เคยได้เรียนในระดับสูงๆ
ทุกสิ่งทุกอย่างจึงถูกพ่องถ่ายมายังลูกชายคนเดียวของตระกูล
เรื่องราวถูกดำเนินไป
ก่อนนำไปสู่โศกนาฎกรรม
เมื่อพ่อจอมเข้มงวดจับได้ว่านีลกำลังละเมิดข้อตกลงและความคาดหวัง
ที่สุดนีลโกหกครูคีตติ้งว่าเขาได้ขออนุญาตพ่อแม่เพื่อไปแสดงละครเวที
นีลแอบปลอมลายเซ็นพ่อในเอกสารของชมรม
เพื่อแสดงละครเวทีอย่างที่เขาต้องการ
ก่อนที่คืนนั้น....พ่อและแม่จะมาดูการแสดงของเขาจนจบ
พ่อของรีลโกรธครูคีตติ้งเพราะเข้าใจว่าครูคีตติ้งคือคนที่กระตุ้นให้นีลแข็งกร้าวและต่อต้านพ่อ
พ่อพานีลกลับบ้าน
บังคับให้เขาเลิกเรียนที่โรงเรียนเวลตันแห่งนี้
กลางดึกอันเหน็บหนาว
นีลตัดสินใจยิงตัวตาย....
พ่อของนีลปัดว่าเป็นความผิดของครูคีตติ้ง
ผู้เข้ามาเปลี่ยนวิธีคิดและความเชื่อของเด็กหนุ่ม
ให้ขัดขืนและต่อต้านกับกฏเกณฑ์ของพ่อแม่
แน่นอน...ครูคีตติ้งตกเป็นเหยื่อของโศกนาฎกรรม
โรงเรียนเลือกอยู่ฝั่งผู้ปกครอง
สุดท้ายครูคีตติ้งจึงต้องถูกบีบให้ลาออกจากโรงเรียน
แต่เขาไม่ได้ออกไปจากใจนักเรียนอีกหลายคนเลย
ครูคีตติ้ง คือ ผู้นำความกล้าหาญในการคิด
ความหวัง ความฝัน และความโรแมนติก
มาสู่นักเรียนของเขา
และมันเปลี่ยนแปลงวิธีคิดของนักเรียนบางคนไปตลอดกาล
- 2 –
คณบดีนั่งจ้องหน้าผมแล้วถามว่า
“ทำไมคุณถึงทำนิทรรศการโจมตีอาจารย์ในคณะฯ”
ท่านไม่ได้คาดคั้นหรือใช้น้ำเสียงดุดัน
หากแต่คงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
นักศึกษาที่ดูเรียบร้อยแบบผม
ถึงลุกขึ้นมาจัดนิทรรศการวิพากษ์วิจารณ์อาจารย์ในคณะฯ
อย่างดุเดือดและตรงไปตรงมา
ผมเป็นศิษย์ที่ตั้งใจเรียนในวิชาที่ท่านสอน
ท่านย่อมรู้ดีว่าผมไม่ได้มีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือต่อต้านสังคม
เหมือนงานภาพวาดและบทกวีที่ผมแสดงออกในบอร์ดของตัวเอง
เพื่อนๆคนอื่นนำเสนองานสถาปัตยกรรมของตนเอง
แต่ผมเลือกที่จะวาดรูปและเขียนบทกวี
โจมตีการสอน วิธีสอนและพฤติกรรมของอาจารย์บางคนในคณะ
ที่ผมคิดว่าเขาไม่ได้มีวิญญาณของความเป็นครูเลย
คณบดีเป็นคนมาเปิดงานในตอนเช้า
เพื่อนบอกว่าท่านหยุดยืนอ่านงานที่บอร์ดของผมนานที่สุด
อาจารย์ในคณะฯโมโหมากเมื่อได้อ่านงานของผมที่บอร์ด
อาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งเป็นรุ่นพี่ของผม
ถูกอาจารย์หัวหน้าคณะฯเรียกเข้าพบทันทีหลังพิธีเปิดงานเสร็จ
บ่ายวันนั้นคณบดีเรียกผมเข้าไปพบ
ผมเตรียมใจไว้ว่า
เลวร้ายที่สุดก็คงโดนทำทัณฑ์บนหรือไม่ก็ไล่ออก....
“ผมคิดว่าอาจารย์เหล่านั้น ไม่มีความเป็นครู
ไม่มีความรับผิดชอบในการสอน ไม่มีความยุติธรรมในการตัดเกรด
ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อต้องการแค่กระดาษแผ่นเดียว
ผมต้องการความรู้ ผมเลือกเรียนที่นี่เพราะผมอยากเป็นครูครับ”
ผมตอบท่านอยากอัดอั้นตันใจ
และพูดไปตามความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง
ท่านนิ่งไปชั่วอึดใจ
ผมคิดว่าท่านคงจะตำหนิผมที่วิพากษ์วิจารณ์อาจารย์ในคณะฯ
ซึ่งย่อมกระทบต่อตัวท่านเองเพราะอาจารย์เหล่านั้นเป็นลูกน้องโดยตรงของท่าน
“เธออยากเรียนต่อปริญญาโทที่นิวซีแลนด์มั้ย
คณะฯจะมอบทุนให้เธอ จบแล้วกลับมาเป็นครูที่นี่”
ผมผิดคาดกับคำตอบของท่าน....
แต่ผมปฏิเสธความหวังดีของท่านไปด้วยความขอบคุณ
ผมจะอยู่ในสถานที่ที่ผมไม่ชอบ
ทำงานกับคนที่ผมรังเกียจได้อย่างไร....
“ผมจะกลับไปเป็นครูที่เชียงใหม่ครับ” ผมตอบท่านไปตามตรง
“ไม่เป็นไร..ลองเอาไปคิดดูนะ แล้วค่อยกลับมาให้คำตอบอีกที”
ท่านยิ้ม....และไม่ได้พูดอะไรต่อ
หลังเรียนจบ….ผมกลับเชียงใหม่แทบจะในทันที
รู้สึกหมดศรัทธาต่อระบบการศึกษาของที่นั่น
ผมทราบข่าวจากรุ่นน้องว่าคณบดีมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น
แต่ท้ายที่สุดอาจารย์เหล่านั้นก็ยังอยู่สอนในคณะต่อไป
อาจารย์รุ่นพี่ที่เป็นที่ปรึกษาโครงการจัดนิทรรศการของผม
ลาออกจากมหาวิทยาลัยในปลายปีการศึกษานั้น
ผมกลับมาเชียงใหม่
แต่ไม่ได้เป็นครูอย่างที่ตั้งใจไว้......
เพราะพ่อเรียกตัวให้ไปช่วยทำธุรกิจกับที่บ้าน
- 3 –
ครูคีตติ้งแม้ไม่มีตัวตนอยู่จริง
แต่ครูคีตติ้งก็ยังอยู่ในใจผมเสมอ
เป็นคนต้นแบบที่ผมอยากเป็น
อยากเจริญรอยตาม
Seize the Day
ใครหลายคนที่เคยได้ดูหนังเรื่องนี้คงจะจำประโยคนี้ได้ดี
“ฉวยวันเวลาเอาไว้”
ใช่ --- ฉวยวันเวลาเอาไว้
ไม่ว่าวันนี้ความฝันของคุณจะคืออะไรก็ตามที.
ครูคีตติ้ง....แสดงโดย โรบิน วิลเลียม
กล่องความคิดเห็น
การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่